Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/12191
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเพ็ญพักตร์ อุทิศ-
dc.contributor.authorอุมาพร วงศ์ประยูร-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์-
dc.date.accessioned2010-03-15T03:15:15Z-
dc.date.available2010-03-15T03:15:15Z-
dc.date.issued2545-
dc.identifier.isbn9741727992-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/12191-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ด้านอายุ และประสบการณ์ทำงาน การรับรู้ปัจจัยสถานการณ์ การรับรู้คุณลักษณะของงาน และการปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลชุมชน 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ด้านอายุ และประสบการณ์ทำงาน ปัจจัยสถานการณ์ คุณลักษณะของงาน กับการปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลชุมชน 3) สร้างสมการพยากรณ์การปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐม ภูมิ โรงพยาบาลชุมชน กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลชุมชน จำนวน 316 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามปัจจัยสถานการณ์ แบบสอบถามคุณลักษณะของงาน และแบบสอบถามการปฏิบัติงาน ตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และหาความเที่ยงโดยใช้วิธีสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ .94, .89, และ .97 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. พยาบาลวิชาชีพมีอายุเฉลี่ย 34.27 ปี มีประสบการณ์ทำงานเฉลี่ย 1.19 ปี มีการรับรู้ปัจจัยสถานการณ์อยู่ใน ระดับปานกลาง (mean = 3.66, S.D. = .61) การรับรู้คุณลักษณะของงานอยู่ในระดับสูง (mean = 4.12, S.D. = .39) และการปฏิบัติงานตามบทบาทในหน่วยบริการปฐมภูมิอยู่ในระดับสูง (mean = 3.66, S.D. = .55) 2. ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านอายุ ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการ ปฐมภูมิ 3. ประสบการณ์ทำงาน ปัจจัยสถานการณ์และคุณลักษณะของงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วย บริการปฐมภูมิ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .16, .36 และ .47 ตามลำดับ) 4. ตัวแปรที่สามารถพยากรณ์การปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการ ปฐมภูมิ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ตามลำดับคือ คุณลักษณะของงาน ปัจจัยสถานการณ์ และประสบการณ์ทำงาน โดยร่วมกันอธิบายความแปรปรวนการปฏิบัติงาน ตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิ ได้ 27.2% (R[superscript 2] = .272) สร้างสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน ได้ดังนี้ การปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิ = .391 คุณลักษณะของงาน + .186 ปัจจัยสถานการณ์ + .102 ประสบการณ์ทำงานen
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were 1) to study age, work experience, situational factors, job characteristics and role performance of professional nurses in Primary Care Units (PCUs), community hospitals 2) to study relationships between personal factors, namely age and work experience, situational factors, job characteristics and role performance of professional nurses in PCUs 3) to create predicted equation in role performance of professional nurses in PCUs. The samples were 316 professional nurses in PCUs, selected by cluster random sample method. The research instruments were questionaires namely situational factors , job characteristics and role performance of professional nurses in PCUs. All questionnaires were test for content validity and reliability. The Cronbachʼs Alpha coefficient reliability were .94, .89, and .97 respectively. Statistical technique utilized in data analysis were Percentage, Mean, Standard deviation, Pearsonʼs product moment correlation and Stepwise multiple regression analysis. Major results of this study were as follows : 1. Mean of age and work experience of professional nurses in PCUs were 34.27 and 1.19 years, respectively. Mean scores of situational factors, job characteristics, and role performance of professional nurses in PCUs were at moderate (mean = 3.66, S.D. = .61), high (mean = 4.12, S.D. = .39), and high level (mean = 3.66, S.D. = .55), respectively. 2. Age had no significantly relationship to role performance. 3. Work experience, situational factors and job characteristics were significantly positive related to role performance at .05 level (r = .16, .36 and .47, respectively). 4. Variables which could significantly predict role performance at .05 level were job characteristics, situational factors, and work experience, respectively. The predictors all together accounted for 27.2 percent of the varience on role performance of professional nurses in PCUs (R[superscript 2] = .272). The predicted equation in standardized score from the analysis was as follow : ROLE PERFORMANCE = .391 JOB CHARACTERISTICS + .186 SITUATIONAL FACTORS + .102 WORK EXPERIENCE.en
dc.format.extent2069558 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectโรงพยาบาลชุมชนen
dc.subjectบริการปฐมภูมิ (การแพทย์)en
dc.subjectพยาบาลen
dc.titleความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยสถานการณ์ คุณลักษณะของงาน กับการปฏิบัติงานตามบทบาทของพยาบาลวิชาชีพ ในหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลชุมชนen
dc.title.alternativeRelationships between personal factors, situational factors, job characteristics, and role performance of professional nurses in primary care units, community hospitalsen
dc.typeThesises
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineการบริหารการพยาบาลes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorPenpaktr.U@Chula.ac.th-
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Umaporn.pdf2.02 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.