Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/17452
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสาริณีย์ กฤติยานันต์-
dc.contributor.authorศุจิกา ศรีวรากร-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะเภสัชศาสตร์-
dc.date.accessioned2012-03-07T07:16:20Z-
dc.date.available2012-03-07T07:16:20Z-
dc.date.issued2552-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/17452-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ภ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552en
dc.description.abstractงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความไวและความจำเพาะของเครื่องมือวัดความร่วมมือในการใช้ยาแบบรายงานด้วยตนเองของผู้ป่วย 3 ชนิด ได้แก่ Morisky Medication Adherence Scale (MMAS) ชนิด 4 คำถาม MMAS ชนิด 8 คำถาม และ Brief Medication Questionnaire (BMQ) โดยใช้การนับเม็ดยาที่บ้านของผู้ป่วยหลังได้รับยาแล้ว 2 สัปดาห์ เป็นวิธีมาตรฐานสำหรับเปรียบเทียบ MMAS ชนิด 4 คำถาม และชนิด 8 คำถาม เป็นเครื่องมือมิติเดี่ยว ส่วน BMQ ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ ความไม่ร่วมมือในการใช้ยาด้านแผนการใช้ยา (regimen screen) ด้านความเชื่อ (belief screen) ด้านความจำ (recall screen) และ ด้านการเข้าถึงยา (access screen) กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีโรคเบาหวาน และ/หรือ โรคไขมันในเลือดผิดปกติ และ/หรือ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด อย่างน้อย 1 โรค จำนวน 229 ราย ที่มารับการรักษาที่ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม 2552 ข้อมูลจากการนับเม็ดยาสามารถแบ่งความไม่ร่วมมือในการใช้ยาออกเป็น 3 ลักษณะได้แก่ ร่วมมือ (มีความไม่ร่วมมือร้อยละ 0) ไม่ร่วมมือเป็นครั้งคราว (มีความไม่ร่วมมือมากกว่าร้อยละ 0 และน้อยกว่าร้อยละ 20) และไม่ร่วมมือซ้ำๆ (ความไม่ร่วมมือมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 20) ผลการวิจัยพบว่า ความไว และความจำเพาะในการคัดกรองผู้ป่วยที่มีความไม่ร่วมมือซ้ำๆ ของ MMAS ชนิด 4 คำถาม คิดเป็น ร้อยละ 3.0 และร้อยละ 100.0 ตามลำดับ ของ MMAS ชนิด 8 คำถาม คิดเป็นร้อยละ 30.3 และ ร้อยละ 87.2 ของ BMQ ด้านแผนการใช้ยา (regimen screen) คิดเป็น ร้อยละ 87.9 และ ร้อยละ 71.9 ด้านความเชื่อ (belief screen) คิดเป็น ร้อยละ 60.6 และ ร้อยละ 69.9 ด้านความจำ (recall screen) คิดเป็น ร้อยละ 72.7 และ ร้อยละ 32.1 และด้านการเข้าถึงยา (access screen) คิดเป็น ร้อยละ 12.1 และ ร้อยละ 90.3 ส่วนความไวและความจำเพาะในการคัดกรองผู้ป่วยที่ไม่ร่วมมือเป็นครั้งคราวของ MMAS ชนิด 4 คำถาม คิดเป็น ร้อยละ 0.0 และร้อยละ 99.0 ของ MMAS ชนิด 8 คำถาม คิดเป็นร้อยละ 17.0 และ ร้อยละ 87.0 ของ BMQ ด้านแผนการใช้ยา (regimen screen) คิดเป็น ร้อยละ 39.5 และ ร้อยละ 67.0 ด้านความเชื่อ (belief screen) คิดเป็น ร้อยละ 30.2 และ ร้อยละ 60.0 ด้านความจำ (recall screen) คิดเป็น ร้อยละ 77.5 และ ร้อยละ 43.0 และด้านการเข้าถึงยา (access screen) คิดเป็น ร้อยละ 10.1 และ ร้อยละ 90.0 MMAS ชนิด 4 คำถาม MMAS ชนิด 8 คำถาม และ regimen screen ของ BMQ มีพื้นที่ใต้กราฟ ROC มากกว่า 0.5 โดย regimen screen มีพื้นที่ใต้กราฟมากกว่า MMAS ชนิด 4 และ 8 คำถาม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ MMAS ทั้งชนิด 4 คำถามและชนิด 8 คำถาม สามารถคัดกรองความไม่ร่วมมือในการใช้ยาได้เฉพาะในระดับผู้ป่วย BMQ สามารถใช้คัดกรองความไม่ร่วมมือในการใช้ยาได้ทั้งในระดับผู้ป่วยและในระดับยาแต่ละรายการ นอกจากนี้ BMQ ยังสามารถจำแนกอุปสรรคของความไม่ร่วมมือในการใช้ยาออกเป็น 3 ด้าน ส่วน MMAS ระบุได้เพียงมีความไม่ร่วมมือในการใช้ยาเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ออกแบบไว้ให้สามารถชี้ปัญหาของความไม่ร่วมมือในการใช้ยา การวิจัยนี้สรุปว่า เครื่องมือวัดความร่วมมือในการใช้ยาทั้ง 3 ชนิด สามารถใช้วัดความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วยได้ โดยแนะนำให้ใช้ BMQ ด้านความจำค้นหาปัญหาความไม่ร่วมมือเป็นครั้งคราว และใช้ BMQ ด้านความเชื่อค้นหาปัญหาความไม่ร่วมมือซ้ำ และ BMQ ด้านแผนการใช้ยาเมื่อจำเป็นต้องคัดกรองความไม่ร่วมมือด้านแผนการใช้ยาสำหรับยาแต่ละรายการen
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this study was to investigate sensitivity and specificity of 3 medication adherence tools including 4-item Morisky Medication Adherence Scale (MMAS), 8-item MMAS, and Brief Medication Questionnaire (BMQ) using pill count at patient’s home 2 weeks after receiving medications as the standard method. While the 4-item MMAS and the 8-item MMAS were the single dimension tool, BMQ consisted of 4 dimensions including regimen screen, belief screen, recall screen, and access screen. The 229 outpatients treated at Sattahip Primary Care Unit, Chonburi, from June to August 2009 who had at least one of diabetic, and/or cardiovascular disease, and/or dyslipidemia were enrolled into the study. The pill count classified non adherence into 3 groups: adherence (non-adherence = 0%), sporadic non-adherence (20% > non-adherence > 0%), and repeated non-adherence (non-adherence >= 20%). The results showed that 4-item MMAS had 3.0% sensitivity with 100.0% specificity for repeated non-adherence whereas the 8-item MMAS had 30.3% sensitivity with 87.2% specificity. The regimen screen of BMQ had 87.9% sensitivity with 71.9% specificity. The belief screen had 60.6% sensitivity with 69.9% specificity. The recall screen had 72.7% sensitivity with 32.1% specificity. The access screen had 12.1% sensitivity and 90.3% specificity. For the sporadic non-adherence, the 4-item MMAS had 0.0% sensitivity with 99.0% specificity, the 8-item MMAS had 17.0% sensitivity with 87.0% specificity. The regimen screen of BMQ had 39.5% sensitivity with 67.0% specificity. The belief screen had 30.2% sensitivity with 60.0% specificity. The recall screen had 77.5% sensitivity with 43.0% specificity. The access screen had 10.1% sensitivity and 90.0% specificity. Although the 4-item MMAS, the 8-item MMAS, and the regimen screen had area under ROC curve more than 0.5, the regimen screen had significantly larger area under curve of ROC than 4-item and 8-item MMAS. While the 4-item MMAS and the 8 item MMAS could detect medication non-adherence only at the patient level, BMQ could identify non adherence both at the patient and the drug item levels. BMQ could not only determine the existence of non adherence like the 4-item and the 8-item of MMAS, but could also codify non-adherence problems into regimen, belief, recall, and access difficulties. The study concluded that all three types of self-reported medication adherence tools could be used to detect patient medication non-adherence. The result suggested in favor of recall screen of BMQ for sporadic non-adherence, belief screen of BMQ for repeated non-adherence while the regimen screen of BMQ was recommended when non-adherence at the drug item level was essentialen
dc.format.extent1526591 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2009.1513-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectการใช้ยาen
dc.subjectหัวใจ -- โรค -- การรักษาด้วยยาen
dc.subjectเบาหวาน -- การรักษาด้วยยาen
dc.subjectผู้ป่วยen
dc.titleความไวและความจำเพาะของเครื่องมือวัดความร่วมมือในการใช้ยาแบบรายงานด้วยตนเองของผู้ป่วยen
dc.title.alternativeSensitivity and specificity of self reported medication adherence toolsen
dc.typeThesises
dc.degree.nameเภสัชศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineเภสัชกรรมคลินิกes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorSarinee.K@Chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2009.1513-
Appears in Collections:Pharm - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
sujika_sr.pdf1.49 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.