Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/19443
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorศิริเดช สุชีวะ-
dc.contributor.authorวิชญา ผิวคำ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2012-05-04T14:35:54Z-
dc.date.available2012-05-04T14:35:54Z-
dc.date.issued2553-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/19443-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553en
dc.description.abstractศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษาในอุดมศึกษา และศึกษาผลการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากการจัดการเรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษาในอุดมศึกษา โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพในรูปแบบการศึกษาเฉพาะกรณี (Case study) ของสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตตปัญญาศึกษาและการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการศึกษาบริบททั่วไปและหลักสูตรของกรณีศึกษา การสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม การสัมภาษณ์แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การวิเคราะห์เอกสาร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสังเกตสภาพและบริบททั่วไปของกรณีศึกษา แบบบันทึกการสังเกตกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการจำแนกชนิดข้อมูล การวิเคราะห์เนื้อหา การสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย และเปรียบเทียบข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า 1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษาในอุดมศึกษา ตั้งอยู่บนปรัชญาพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้แนวจิตตปัญญาคือ ความเชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์และทัศนะแบบองค์รวม โดยมีจุดมุ่งหมายของกระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยจุดมุ่งหมายหลักสำคัญสองประการคือ ต้องการให้ผู้เรียนรู้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในตนเอง และเกิดจิตสำนึกต่อส่วนรวม การจัดกระบวนการเรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษาอาจถือได้ว่าไม่มีรูปแบบตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนไปตามเนื้อหาและกระบวนการที่หลากหลาย เป็นการสร้างเงื่อนไขให้ศักยภาพภายในที่มีอยู่แล้วสามารถพัฒนาขึ้นได้ เป็นกระบวนการที่มุ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเติบโตขึ้นจากภายใน และเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ในลักษณะกระบวนการของการสืบค้นร่วม เป็นไปตามหลักการพื้นฐาน 7 ประการ หรือ หลักจิตตปัญญา 7 หรือ 7C’s อันประกอบด้วยการพิจารณาด้วยใจอย่างใคร่ครวญ (Contemplation) หลักความรักความเมตตา (Compassion) การเชื่อมโยงสัมพันธ์ (Connection) การเข้าเผชิญ (Confrontation) หลักความต่อเนื่อง (Continuity) หลักความมุ่งมั่น (Commitment) และหลักชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Community) บทบาทของผู้จัดการเรียนรู้และผู้เรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษานั้น ถือเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายต่างต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร แบ่งปันทั้งความรู้และเรียนรู้ร่วมกัน ครูผู้จัดการเรียนรู้นั้นเป็นผู้ที่คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้เกิดการสะท้อนตนเอง สามารถเกิดความตระหนักรู้ ส่วนผู้เรียนแสดงบทบาทเป็นทั้งผู้ฟังที่ดีและผู้พูดที่ดี โดยมีการรับฟังอย่างลึกซึ้งและพูดในสิ่งที่ถูกใคร่ครวญมาก่อน การวัดและประเมินผลโดยการใช้กระบวนทัศน์แบบบูรณาการหรือใช้กระบวนทัศน์ร่วมกัน ประกอบด้วยการประเมินตนเอง (เรียกว่าบุคคลที่ 1 หรือทัศน์ 1) การประเมินโดยมีส่วนร่วมของเพื่อนร่วมชั้นเรียน (เรียกว่า บุคคลที่ 2 หรือทัศน์ 2) และโดยผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ (เรียกว่าบุคคลที่ 3 หรือทัศน์ 3) จะอาศัยเครื่องมือในการวัดคือ การมีส่วนร่วม การเขียนบันทึกการเดินทาง การทำโครงการย่อยและการทำโครงการ 2. ผลการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงของผู้เรียนรู้เกิดขึ้นจากการรับรู้ถึงความคิด ความรู้สึก และการกระทำต่างๆ ของตนเอง ผู้เรียนรู้ทุกคนต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่าตนเกิดการมีสติรู้ตัวและมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ทำให้ผู้เรียนสามารถควบคุมพฤติกรรมของตนได้ดีขึ้นทั้งทางวาจาและการกระทำ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตนเองและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างเป็นรูปธรรม ผู้วิจัยพบว่าสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในตัวผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงใน 3 มิติคือ การเข้าใจและยอมรับตนเอง การเข้าใจและการยอมรับผู้อื่น และการเข้าใจและการยอมรับความเป็นจริงตามธรรมชาติen
dc.description.abstractalternativeTo study the learning management model based on contemplative education approach in higher education and to study transformative learning of learners from the learning management model based on contemplative education approach in higher education. Field research methodology: A case study in A Master of Arts Program in Contemplative Education and Transformative Learning, Mahidol University Saraya Campus. The data collection process consisted of participant and non-participant observations, formal interview and informal interview documentary analysis. The data was analyzed by the content analysis, reduction of data and data comparative. The research results were as follows 1. Learning management model based on contemplative education approach in higher education is referred to the basic philosophy of learning process of contemplation approach, that is, the belief in humanity and holistic approach. The objective of learning management process consists of 2 major goals which are to enable the learner to develop basic change in oneself and good sense to the community. Learning management based on contemplation seems not to have any fixed model and can be altered to respond to content and process aimed to provide conditions for existing potential to be able to be developed. It is a process for developing conditions to grow from the inside and a learning process entertaining participation in the manner of co-researching in accordance with 7 basic principles or “7 Contemplative Principles” or 7C’s consisting of Contemplation, Compassion, Connection, Confrontation, Continuity, Commitment and Community. With respect to the roles of learning administrator and learner under the approach of contemplative education, they possess significant influence to each other as either party will have to be a good advisor to the other party in sharing knowledge and in learning together. The instructor as a learning administrator will have to urge the learner to reflect oneself, to attain acknowledgement while the learner will play a role of good listener and speaker by really listening and speaking for what has been considered. Testing and evaluation by applying integral paradigm or cooperative paradigm will consist of self-evaluation (called 1st person or 1st paradigm), evaluation by other learners in the class (2nd person or 2nd paradigm) and by specialist or instructor (3rd person or 3rd paradigm). The tools for testing include participation, journal, mini project and projects. 2. The result of learning leading to the change in the learner will result from recognition of the idea, feeling and acts of oneself. The learners are in the agreement that they become conscious and are always aware of the present. 0They can better control their behavior both verbally and physically. This has led to concrete change in oneself and interaction with others. The researcher also synthesized things resulted from change in the learner and concluded that such change can be categorized in 3 dimensions including self-understanding and acceptance, understanding and acceptance in others and understanding and acceptance of natural truth.en
dc.format.extent2620588 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2010.86-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectจิตตปัญญาศึกษา-
dc.subjectการศึกษาขั้นอุดมศึกษา-
dc.subjectกรณีศึกษา-
dc.subjectการเรียนรู้-
dc.subjectContemplative education-
dc.subjectEducation, Higher-
dc.subjectCase method-
dc.subjectLearning-
dc.titleกรณีศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนฐานแนวคิดจิตตปัญญาศึกษาในอุดมศึกษาen
dc.title.alternativeA case study of learning management model based on contemplative education approach in higher educationen
dc.typeThesises
dc.degree.nameครุศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineวิจัยการศึกษาes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorSiridej.S@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2010.86-
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Wichaya_pe.pdf2.56 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.