ผลการฝึกตามระบบแฟลนเดอร์สที่มีต่อกิริยาร่วมทางวาจา ของนักศึกษาฝึกสอน และนักเรียนในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาเปรียบเทียบถึงผลของการฝึกตามระบบแฟลนเดอร์สที่มีต่อกิริรยาร่วมทางวาจาของนักศึกษาฝึกสอนในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย นักศึกษาฝึกสอน 80 คน เป็นชาย 40 คน หญิง 40 คน นักเรียน 80 ห้องเรียน แบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มควบคุม 40 คน ชาย 20 คน หญิง 20 คน กลุ่มทดลอง 40 คน ชาย 20 คน หญิง 20 คน กลุ่มทดลองได้รับการอบรม และฝึกตามระบบแฟลนเดร์สเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ข้อมูลที่ได้นั้นนำมาวิเคราะห์ในรูปของร้อยละ และทดสอบค่า tโดยใช้ระดับความมีนัยสำคัญที่ 0.01 ผลการวิเคราะห์พบว่า (1) นักศึกษาฝึกสอนทั้งหมดใช้เวลาในการพูดร้อยละ 41.300 บรรยายเพื่อเน้นเนื้อหาร้อยละ 33.113 นักเรียนใช้เวลาในการพูดเพื่อตอบสนองร้อยละ 19.593 และพูดริเริ่มร้อยละ 2.292 นักศึกษาฝึกสอนใช้อิทธิพลทางอ้อมร้อยละ 17.459 อิทธิพลทางตรงร้อยละ 23.851 เวลาแห่งความเงียบร้อยละ 37.357 (2) ในกลุ่มควบคุม นักศึกษาฝึกสอนใช้เวลาในการพูดร้อยละ 39.024 บรรยายเน้นเนื้อหาร้อยละ 31.284 นักเรียนใช้เวลาในการพูดเพื่อตอบสนองร้อยละ 16.614 พูดริเริ่มร้อยละ 0.929 นักศึกษาฝึกสอนใช้อิทธิพลทางตรงร้อยละ 28.346 อิทธิพลทางอ้อมร้อยละ 10.678 เวลาแห่งความเงียบร้อยละ 43.433 (3) ในกลุ่มทดลอง นักศึกษาฝึกสอนใช้เวลาพูดร้อยละ 42.446 บรรยายเพื่อเน้นเนื้อหาร้อยละ 34.894 นักเรียนใช้เวลาพูดเพื่อตอบสนองร้อยละ 22.491 พูดริเริ่มร้อยละ 3.619 นักศึกษาฝึกสอนใช้อิทธิพลทางตรง ร้อยละ 19.474 อิทธิพลทางอ้อมร้อยละ 22.972 เวลาแห่งความเงียบร้อยละ 31.444 (4) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในด้านการใช้เวลาพูดของครูและอัตราการใช้คำถามเมื่อเทียบกับการบรรยาย ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง (5) เพศของนักศึกษาฝึกสอนไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มควบคุมหรือกลุ่มทดลองไม่มีผลต่อกิริยาร่วมทางวาจาอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01