Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/50442
Title: | DENSITY AND VISCOSITY MEASUREMENT OF AQUEOUS AMINE SOLUTION OF AMINO ETHANOL FOR CARBON DIOXIDE ABSORPTION PROCESS |
Other Titles: | การวัดค่าความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายเอมีนประเภทอะมิโนเอทานอลสำหรับกระบวนการการดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ |
Authors: | Nutthakarn Phumkokrux |
Advisors: | Kreangkrai Maneeintr |
Other author: | Chulalongkorn University. Faculty of Engineering |
Advisor's Email: | Krengkrai.M@chula.ac.th,Krengkrai.M@chula.ac.th |
Subjects: | Carbon dioxide -- Absorption and adsorption Amines -- Density คาร์บอนไดออกไซด์ -- การดูดซึมและการดูดซับ เอมีน -- ความหนาแน่น |
Issue Date: | 2015 |
Publisher: | Chulalongkorn University |
Abstract: | Carbon dioxide (CO2) causes the global issues on climate change and global warming. The sources of CO2 are from fossil fuel power plants. The chemical absorption by aqueous amine solution of amino ethanol of 2-(Diethylamino)ethanol (DEAE), 2-(Dimethylamino)ethanol (DMAE) and 2-(Methylamino)ethanol (MAE) are promising method to remove CO2 from fuel gases. Measurement of density and viscosity are the fundamental data for designing and modeling the absorption process. The objectives of this study are (1) to measure the density and viscosity of aqueous amino ethanol solutions and evaluate the effect of mole fraction and temperature on density and viscosity of amines. (2) to develop the correlation for prediction the data in the future. And (3) to investigate the effect of the various function groups attached to back-bone of amino ethanol. The results for the densities of DEAE, DMAE and MAE decrease with an increase of mole fraction and temperature. Also, the viscosities of all of the range of mole fraction of DEAE, DMAE and MAE decrease as temperature increases up to mole fraction of 0.4, 0.4 and 0.6, respectively and becomes lower. Moreover, the correlations by Redlich-Kister equation is the most suitable model which have been developed to represent the data and predict the data for equipment design. This equation gave the lowest percent absolute deviation (%AAD). The %AAD of density of DEAE, DMAE and MAE is 0.1590%, 0.0112% and 0.0261%, respectively. The %AAD of viscosity of DEAE, DMAE MAE is 1.9413%, 2.0312%, 1.4912, respectively. |
Other Abstract: | ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสาเหตุหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและสภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน โดยแหล่งกำเนิดของก๊าซส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ ด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีการดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยสารละลายเอมีนประเภทอะมิโนแอลกอฮอล์ ได้แก่ 2-(Diethylamino)ethanol (DEAE), 2-(Dimethylamino)ethanol (DMAE) and 2-(Methylamino)ethanol (MAE) ที่ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งกำเนิดนี้ นอกจากนี้ การศึกษาความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายดังกล่าวเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการออกแบบเครื่องมือและกระบวนการการดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ (1) เพื่อวัดค่าความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายเอมีนประเภทอะมิโนแอลกอฮอล์และประเมินผลอัตราความเข้มข้นของสารและอุณหภูมิที่มีผลต่อคุณสมบัติเหล่านี้ (2) เพื่อพัฒนาสมการความสัมพันธ์สำหรับใช้พยากรณ์ข้อมูลในอนาคตและ (3) เพื่อพิจารณาผลของหมู่ฟังก์ชันต่างๆ ที่เกาะกับหมู่เอมีนและอะมิโนแอลกอฮอล์ที่มีผลต่อคุณสมบัติข้างต้น ผลจากการศึกษาพบว่าค่าความหนาแน่นของ DEAE, DMAE และ MAE ลดลงเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ผลของค่าความหนืดของสารละลายดังกล่าวมีค่าเพิ่มขึ้นตามค่าอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจนถึงอัตราความเข้มข้นของสารละลายของ DEAE, DMAE และ MAE ที่ประมาณ 0.4, 0.4 และ 0.6 โดยเศษส่วนโมลตามลำดับ จากนั้นค่าความหนืดจะเริ่มลดลงตามอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามสมการความสัมพันธ์ของ Redlich-Kister ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแสดงข้อมูลของค่าความหนาแน่นและความหนืด อีกทั้งยังใช้เพื่อพยากรณ์ค่าของคุณสมบัติดังกล่าวเพื่อการออกแบบเครื่องมือและกระบวนการการดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสมการความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นสมการที่มีความเหมาะสมที่สุดเนื่องจากให้ค่าร้อยละของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ต่ำที่สุด โดยค่าร้อยละของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความหนาแน่นของ DEAE, DMAE และ MAE คือร้อยละ 0.1590 ร้อยละ 0.112 และ ร้อยละ 0.0261 ตามลำดับ และค่าร้อยละของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความหนืดของ DEAE, DMAE และ MAE คือร้อยละ 1.9413 2.0312 และ 1.4912 ตามลำดับ |
Description: | Thesis (M.Eng.)--Chulalongkorn University, 2015 |
Degree Name: | Master of Engineering |
Degree Level: | Master's Degree |
Degree Discipline: | Georesources Engineering |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/50442 |
URI: | http://doi.org/10.14457/CU.the.2015.165 |
metadata.dc.identifier.DOI: | 10.14457/CU.the.2015.165 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Eng - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
5770163121.pdf | 3.48 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.