Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76523
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorกิ่งกาญจน์ จงสุขไกล-
dc.contributor.authorมิณฑกานต์ สร้อยแสง-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย-
dc.date.accessioned2021-09-21T06:45:37Z-
dc.date.available2021-09-21T06:45:37Z-
dc.date.issued2563-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76523-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563-
dc.description.abstractงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดำเนินงาน ตามนโยบายของรัฐด้านวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในเขตพื้นที่เสี่ยง จังหวัดปทุมธานี และเพื่อศึกษาการตอบสนองของผู้ใช้รถใช้ถนนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในเขตพื้นที่เสี่ยง จังหวัดปทุมธานี ต่อนโยบายของรัฐด้านวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน กลุ่มเป้าหมายสำหรับการวิจัย คือผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับงานด้านอุบัติเหตุทางถนน และประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ใช้เกณฑ์ในการเลือกโดยประเมินจากผู้ที่มีการใช้รถใช้ถนนเป็นประจำในช่วงอายุ 16-25 ปีในพื้นที่ที่ทำการศึกษา โดยกำหนดรูปแบบการวิจัยแบ่งเป็น การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลกับกลุ่มประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 16-25 ปี ทั้งชายและหญิงจำนวน 150 คน โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และการวิจัยเชิงคุณภาพ คือการศึกษาภาคสนามโดยใช้การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ซึ่งกำหนดกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ 11 ท่าน และกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีอายุตั้งแต่ 16-25 ปี และเคยประสบอุบัติเหตุทางถนน ทั้งชายและหญิง รวมทั้งสิ้นจำนวน 8 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง การตรวจสอบและวิเคราะห์ของการวิจัยเชิงคุณภาพในขั้นตอนนี้จะใช้วิธีการตรวจสอบแบบสามเส้า  ผลการวิจัย พบว่า 1) หน่วยงานที่รับผิดชอบอุบัติเหตุทางถนน ถูกกำหนดหน้าที่และภารกิจต่างกันภายใต้ 5 เสาหลัก ตามทศวรรษแห่งความปลอดภัย  มีลักษณะการดำเนินงานที่มีความผสมผสานระหว่างตัวแบบที่ยึดหลักเหตุผล (Rational Model) ตัวแบบด้านการจัดการ (Management Model) และตัวแบบทางด้านการเมือง (Political Model) 2) ผู้ใช้รถใช้ถนนมีการตอบสนองด้านวัฒนธรรมความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก ส่วนการตอบสนองด้านวัฒนธรรมความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนที่อยู่ในระดับน้อย ได้แก่ ด้านความเร็วในการขับขี่บนท้องถนน และด้านการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งการตอบสนองเหล่านี้ ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากครอบครัวและสังคม และการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากการไม่ปฏิบัติตามพฤติกรรมที่ปลอดภัย แนวทางการพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยควรกระทำในเด็กและเยาวชนเป็นอันดับแรก แต่ต้องสร้างบรรยากาศเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนกับคนทุกเพศทุกวัย มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และอาศัยการร่วมมือจากทางภาครัฐโดยการบูรณาการภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน-
dc.description.abstractalternativeThis research aimed at studying the operations following the government policy in the field of road safety culture for solving the problematic road accidents in risk areas, Pathumthani Province. Additionally, to study the response of reckless road users in risk areas, Pathumthani Province following the government policy in the field of road safety culture. The targets of this research were the representatives from government departments related road accident, and the populace who was a road user. The criteria based on the assessment from people regularly being road users and steering in educational areas, having a length of age between 16-25 years old. This research defined its approach by quantitative research which employed a questionnaire in order to survey related information from populace, both male and female, who had a length of age between 16-25 years old for 150 persons under the convenience sampling and descriptive statistics methods. Also, by qualitative research, it applied a field study under the structured interview method which defined a group of key informants by 11 persons of government representatives, and a group of male and female road users with a length of age between 16-25 years old encountering road accidents for total 8 persons by purposive sampling method. The validation and analysis of qualitative research, this step adopted data triangulation technique. The finding revealed that 1) the departments in charge of road accident were defined the different functions and missions under the 5-pillars matrix for the decade of action for road safety which the performance characteristics had a mixing of Rational Model, Management Model and Political Model, and 2) the majority of road users had high response in road safety culture, and the minority of road users had low response in road safety culture including speed of road steering and wearing a helmet which these responses were primarily influenced by family and society. Moreover, most accidents came from non-compliance with safe behavior. Therefore, the principle of development in safety culture should have been implemented in children and youth at first place but it needs to build an atmosphere so as to create the development in road safety culture with people of all ages and gender. Also there was strict law enforcement and required cooperation from the government by integrating related sectors with road accident prevention and mitigation mission.-
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2020.939-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.subjectความปลอดภัยในท้องถนน -- ปทุมธานี-
dc.subjectการขนส่งทางบก-
dc.subjectTraffic safetyPathumthani-
dc.subjectTransportation, Automotive-
dc.subject.classificationSocial Sciences-
dc.subject.classificationSocial Sciences-
dc.titleแนวทางการพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อผู้ใช้ถนนปลอดภัย : กรณีศึกษากลุ่มเสี่ยง ในเขตพื้นที่เสี่ยง จังหวัดปทุมธานี-
dc.title.alternativeAn approach to the development of road safety culture for road safety users: a case study of risk group in risk area, Pathumthani province-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameศิลปศาสตรมหาบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาโท-
dc.degree.disciplineพัฒนามนุษย์และสังคม-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2020.939-
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5987296020.pdf3.62 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.