Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80804
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอุรา ปานเจริญ-
dc.contributor.authorวิลาวรรณ ใจหาญ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์-
dc.date.accessioned2022-11-02T09:44:17Z-
dc.date.available2022-11-02T09:44:17Z-
dc.date.issued2564-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80804-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2564-
dc.description.abstractงานวิจัยนี้ศึกษาการกำจัดตะกั่วในน้ำสังเคราะห์ที่ปนเปื้อนโดยใช้ตัวดูดซับชีวภาพจากเปลือกมะละกอ (PP) โดยใช้วิธีการพื้นผิวการตอบสนองแบบบ็อกซ์-เบห์นเคน ผลการทดลองพบว่า สภาวะที่เหมาะสมในการดูดซับตะกั่วคือ ความเข้มข้นของตะกั่วเริ่มต้นในสารละลาย 96.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ค่าความเป็นกรด-ด่างเท่ากับ 4 ปริมาณตัวดูดซับ 0.73 กรัมต่อ 50 มิลลิลิตร และเวลาสัมผัสเท่ากับ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ได้ทำการปรับปรุงพื้นผิวตัวดูดซับ PP ด้วย PDTC (PP-PDTC) เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซับ พบว่าผลการดูดซับตะกั่วสำหรับ PP และ PP-PDTC ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมมีค่าเท่ากับร้อยละ 97.51 และ 99.12 ตามลำดับ ผลการศึกษาไอโซเทอมของ PP และ PP-PDTC สอดคล้องกับแบบจำลองของฟรุนดลิชและดูบินิน-ราดัชเควิช ตามลำดับ การศึกษาจลนพลศาสตร์ของทั้งสองตัวดูดซับสอดคล้องกับแบบจำลองอันดับสองเทียม การศึกษาอุณหพลศาตร์ของ PP และ PP-PDTC พบว่า เป็นกระบวนการดูดความร้อนและสามารถเกิดขึ้นได้เอง การวิเคราะห์ SEM/EDX พบว่าพื้นผิวเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญหลังจากถูกปรับปรุงด้วย PDTC และหลังจากการดูดซับด้วยตะกั่ว การวิเคราะห์ FTIR พบว่ามีหมู่ฟังก์ชันที่สามารถทำปฏิกิริยากับตะกั่วบนตัวดูดซับ PP และ PP-PDTC และการวิเคราะห์ BET พบว่าปริมาตรรูพรุนและพื้นที่ผิวของตัวดูดซับ PP-PDTC มีขนาดมากกว่า PP การศึกษาค่าร้อยละของการคายซับโดยใช้กรดไนตริกบนตัวดูดซับ PP และ PP-PDTC มีค่าเท่ากับร้อยละ 75.16 และ 92.79 ตามลำดับ-
dc.description.abstractalternativeIn this study, lead removal from synthetically contaminated aqueous solutions by papaya bio-absorbent (PP) was investigated by response surface methodology method based on Box-Behnken design. Experimental results showed the optimal conditions to be the initial lead concentration in solution at 96.5 mg/L, the pH of solution at 4, the adsorbent dosage at 0.73 g/50 ml and the contact time at 3 h. In addition, the adsorbent surface of PP was modified by PDTC (PP-PDTC) to increase the adsorption capacity. The results of the percentage of lead adsorption for PP and PP-PDTC under optimal conditions were 97.51% and 99.12%, respectively. Furthermore, the data of the isotherm studies with PP and PP-PDTC were consistent with the Freundlich and Dubinin-Radushkevich models, respectively. The kinetic studies of two adsorbents fitted well with pseudo second-order model. Thermodynamic studies of PP and PP-PDTC were found to be an endothermic process and could occur spontaneously. The SEM/EDX showed that the surfaces were significantly changed after treatment with PDTC and after lead adsorption. The FTIR analysis revealed lead-reactive functional groups on both PP and PP-PDTC adsorbents. And BET showed that pore volume and surface area of ​​PP-PDTC adsorbent were larger than PP. The percentage of desorption using nitric acid on PP and PP-PDTC adsorbents were 75.16 % and 92.79 %, respectively. -
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2021.896-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.subject.classificationEngineering-
dc.titleการเพิ่มประสิทธิภาพของผงเปลือกมะละกอด้วยสาร PDTC เพื่อดูดซับตะกั่วออกจากน้ำเสียสังเคราะห์ และการทำนายค่าสภาวะการดูดซับที่เหมาะสมโดยใช้วิธีการพื้นผิวตอบสนอง-
dc.title.alternativeEnhancement of papaya peel powder via PDTC for lead adsorption from synthetic waste water and prediction of its optimal adsorption condition using response surface methodology.-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาโท-
dc.degree.disciplineวิศวกรรมเคมี-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2021.896-
Appears in Collections:Eng - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6170271021.pdf3.86 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.