Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/82428
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorAtiphan Pimkhaokham-
dc.contributor.authorPaweena Yimarj-
dc.contributor.otherChulalongkorn University. Faculty of Dentistry-
dc.date.accessioned2023-08-04T06:01:21Z-
dc.date.available2023-08-04T06:01:21Z-
dc.date.issued2019-
dc.identifier.urihttps://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/82428-
dc.descriptionThesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2019-
dc.description.abstractObjectives: To compare the accuracy of position and parallelity of two implants, using static and dynamic CAIS systems. Materials & Methods: 30 patients received two implants randomly allocated to 2 different CAIS systems. Optimal implant position and absolute parallelity was planned based on preoperative CBCT. Implants were placed using surgical guide (static CAIS, n = 15) and real time navigation (dynamic CAIS, n = 15). Implant 3-dimentional deviation and parallelity was calculated after surgery. Results: The mean deviation at implant platform, apex and angulation in the static and dynamic  CAIS group was 1.04 ± 0.67 mm, 1.54 ± 0.79 mm, 4.08 ± 1.69 degree and 1.24 ± 0.39 mm, 1.58 ± 0.56 mm, 3.78 ± 1.84 degree respectively. The parallelity achieved between two placed implants in static and dynamic CAIS groups were 4.32 ± 2.44 degrees and 3.55 ± 2.29 degrees respectively. There were no significant differences in all parameters between two groups. Conclusions: Static and dynamic CAIS provides similar accuracy of the 3d implant position and parallelity between two implants.-
dc.description.abstractalternativeวัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบความแม่นยำของตำแหน่งรากฟันเทียมระหว่างการใช้วิธีคอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิตและแบบพลวัต ในผู้ป่วยที่ต้องการรากฟันเทียมสองรากเพื่อรองรับฟันปลอมบางส่วนชนิดติดแน่น  วัสดุและวิธีการ: รากฟันเทียมจำนวน 60 ซี่ ในผู้ป่วย 30 คนที่ต้องการรากฟันเทียมสองรากเพื่อรองรับฟันปลอมบางส่วนชนิดติดแน่น ด้วยวิธีคอมพิวเตอร์ช่วย 2 ระบบคือวิธีคอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิต (n = 30) โดยการใช้แผ่นนำการผ่าตัดในการฝังรากฟันเทียมและระบบที่ 2 ด้วยวิธีคอมพิวเตอร์ช่วยแบบพลวัต (n = 30) ที่เป็นระบบนำทางผ่าตัด หลังจากฝังรากฟันเทียมจะทำการถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์แบบโคนบีมและนำมาเข้าซอฟต์แวร์เพื่อวัดความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งรากฟันเทียมที่ฝังได้กับตำแหน่งที่วางแผนไว้ ผลลัพธ์หลักคือค่าความคลาดเคลื่อนที่ตำแหน่งขอบบนของรากฟันเทียม, ปลายรากฟันเทียม และความคลาดเคลื่อนเชิงมุม และผลลัพธ์รองคือความขนานกันของรากฟันเทียมสองรากในรูปของความคลาดเคลื่อนเชิงมุม ผลการศึกษา: ความคลาดเคลื่อนเฉลี่ยที่ตำแหน่งขอบบนของรากฟันเทียมและปลายรากฟันเทียมในกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิตคือ 1.04±0.71 มม. และ 1.51±0.86 มม. ตามลำดับ ความคลาดเคลื่อนเฉลี่ยที่ตำแหน่งขอบบนของรากฟันเทียมและปลายรากฟันเทียมในกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแบบพลวัตคือ 1.24±0.62 มม. และ 1.58 ± 0.77 มม. ตามลำดับ ความคลาดเคลื่อนเชิงมุมและความขนานกันของรากฟันเทียมสองรากในกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิตคือ 4.05±2.06 องศา และ 4.32±2.44 องศา ในกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแบบพลวัตคือ 3.78±2.38 องศาและ 3.55±2.29 องศา ไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของทั้งสองกลุ่ม สรุปผลการศึกษา: การฝังรากฟันเทียมโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิตและแบบพลวัตให้ความแม่นยำเทียบเท่ากัน ในผู้ป่วยที่มีช่องว่างไร้ฟันบางส่วนที่ต้องการรากฟันเทียมสองรากเพื่อรองรับฟันปลอมบางส่วนชนิดติดแน่น-
dc.language.isoen-
dc.publisherChulalongkorn University-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2019.382-
dc.rightsChulalongkorn University-
dc.titleComparison the accuracy of implant position between static and dynamic computer-assisted implant surgery with two-implant support fixed partial prosthesis-
dc.title.alternativeการเปรียบเทียบความแม่นยำของตำแหน่งรากฟันเทียมระหว่างการฝังรากฟันเทียมด้วยวิธีคอมพิวเตอร์ช่วยแบบสถิตและแบบพลวัตโดยใช้รากฟันเทียมสองรากเพื่อรองรับฟันปลอมบางส่วนชนิดติดแน่น-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameMaster of Science-
dc.degree.levelMaster's Degree-
dc.degree.disciplineOral and Maxillofacial Surgery-
dc.degree.grantorChulalongkorn University-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2019.382-
Appears in Collections:Dent - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6075822632.pdf1.28 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.