Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการเขียนภาษาอังกฤษของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร ในด้านการใช้วิธีการควบคุมและตรวจสอบการใช้ภาษา วิธีการทางความรู้ ความคิด และวิธีการเพื่อการสื่อความหมาย และเพื่อเปรียบเทียบกระบวนการเขียนภาษาอังกฤษระหว่างนักศึกษาที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสูงและต่ำ ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในสถาบันอุดมศึกษา สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคปลาย ปีการศึกษา 2532 ซึ่งผู้วิจัยสุ่มมาด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายชั้น จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาลและเอกชนมาจำนวน 7 สถาบัน ได้กลุ่มตัวอย่างประชากรทั้งหมด 991 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 2 ฉบับ คือ แบบสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนภาษาอังกฤษและแบบสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการเขียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และได้รีบการตรวจสอบด้านความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 7 ท่าน ผู้วิจัยนำแบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .88 และแบบสอบสวนที่เป็นข้อสอบแบบปรนัยซึ่งมีค่าระดับความยากเท่ากับ .33 - .76 ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .21 - .58 และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ .79 และข้อสอบแบบอัตนัยซึ่งมีค่าความเที่ยงเท่ากับ .84 ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างประชากรที่เลือกไว้ คัดเลือกเฉพาะแบบสอบชุดที่มีความสมบูรณ์ทั้งส่วนที่เป็นแบบสอบถามและแบบสอบ ได้จำนวนทั้งสิ้น 700 ชุด นำข้อมูลที่ได้มาหาค่าร้อยละ ค่ามัชณิมเลขคณิต และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และในขณะเดียวกันผู้วิจัยแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็นกลุ่มที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสูงและต่ำจากนักศึกษาที่ได้คะแนนสูง 25% จำนวน 175 คน และนักศึกษาที่ได้คะแนนต่ำ 25% จำนวน 175 คน และทำการเปรียบเทียบกระบวนการเขียนภาษาอังกฤษระหว่างนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสูงและต่ำโดยการหาค่าอัตราส่วนวิกฤติ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานครนำกระบวนการเขียนมาปฏิบัติปานกลางทุกวิธี และเมื่อทำการเปรียบเทียบกระบวนการเขียนภาษาอังกฤษระหว่างนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสูงและต่ำ พบว่า นักศึกษาทั้งสองกลุ่มนำกระบวนการเขียนทุกวิธีมาปฏิบัติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้