Abstract:
งานวิจัยนี้ศึกษาความต้องการเทคโนโลยีพลังงานในภาคอาคารของประเทศไทยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจัดลำดับความสำคัญของเทคโนโลยีพลังงานที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริม สนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอาคารของประเทศไทย ซึ่งงานวิจัยนี้ใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเลือกจากหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Analysis) โดยกำหนดเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินเป็นสองด้าน ประกอบด้วย ด้านความพร้อม และด้านผลกระทบ และอ้างอิงรายการเทคโนโลยีพลังงานของภาคอาคารที่ใช้ในการประเมิน จากเอกสารของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme) และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change) ซึ่งได้นำมาทำการคัดเลือกใช้เฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอาคารในประเทศไทย และให้ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอาคาร ทำการประเมินให้คะแนน จากผลการประเมินพบว่า ผู้เชี่ยวชาญให้ความสำคัญกับเกณฑ์ด้านความพร้อมในประเด็นนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (R1) ต้นทุนและผลประโยชน์ (R3) การสนับสนุนด้านการเงิน (R2) การยอมรับจากสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (R4) ทรัพยากรบุคคล ผู้เชี่ยวชาญ หรือสถาบันเฉพาะทาง (R5) และความเป็นไปได้ของการผลิตภายในประเทศ (R9) และเกณฑ์ด้านผลกระทบในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม: มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ การปนเปื้อน ฯลฯ (I3) โดยผลการจัดลำดับความสำคัญของเทคโนโลยีพลังงานที่มีความพร้อมและผลกระทบสูงที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1) อาคารอัตโนมัติ 2) อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3) เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะและบ้านอัตโนมัติ 4) การควบคุมอัจฉริยะ และ 5) หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หลอด LED ตามลำดับ