Abstract:
จากกรณีศึกษาของบริษัทผู้ผลิตกระดาษในประเทศไทยที่มีการส่งออกกระดาษจาก ประเทศไทยไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก โดยกลุ่มประเทศหลักที่มีการส่งออกได้แก่ กลุ่มประเทศใน ทวีปเอเชียและยุโรป ซึ่งรูปแบบหลักของการขนส่งดั้งเดิมที่ใช้จะเป็นรูปแบบของตู้คอนเทนเนอร์ ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งนี้เทอมการซื้อขายสินค้าของบริษัทจะเป็นเทอม CIF (Cost Insurance & Freight) ทั้งหมดซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดสรรกิจกรรมโลจิสติกส์ตั้งแต่หน้าโรงงานจนถึงท่าเรือปลายทาง แต่เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลให้ค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ปรับตัวสูงขึ้น 3 - 4 เท่า จึงเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกในด้านของต้นทุนการขนส่ง สารนิพนธ์ฉบับนี้จึงมุ่งเน้นที่จะศีกษารูปแบบการขนส่งแบบเทกองเพื่อเป็นทางเลือกของ การขนส่ง โดยทำการศึกษาต้นทุนของรูปตู้คอนเทนเนอร์และรูปแบบเทกองภายใต้การคำนวณ ต้นทุนตลอดทั้งปีในเส้นทางหลักของบริษัทจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเรือ Antwerp ซึ่งข้อมูล ด้านต้นทุนของแต่ละกิจกรรมเป็นการเก็บรวบรวมจากบริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และนำ ต้นทุนมาเฉลี่ยเพื่อเป็นค่ากลางสำหรับการคำนวณ ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบเทกองมีต้นทุนที่ต่ำ กว่ารูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณา ในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด 19 ที่สถานการณ์ค่าระวางปรับตัวกลับมาเป็นปกติ พบว่ารูปแบบตู้ คอนเทนเนอร์ยังคงเป็นรูปแบบที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด