Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11412
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | สมพล เล็กเฟื่องฟู | - |
dc.contributor.author | พวงทอง เล็กเฟื่องฟู | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย | - |
dc.date.accessioned | 2009-09-30T06:59:56Z | - |
dc.date.available | 2009-09-30T06:59:56Z | - |
dc.date.issued | 2539 | - |
dc.identifier.isbn | 9746364618 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11412 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 | en |
dc.description.abstract | ศึกษาผลของโปรแกรมควบคุมคราบจุลินทรีย์ในนักเรียนวัยรุ่นต่อการลดคราบจุลินทรีย์ ลดสภาวะเหงือกอักเสบ และลดการเกิดหินน้ำลาย สุ่มตัวอย่างจากนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 โรงเรียนวัดราชาธิวาสเป็นสองกลุ่ม กลุ่มทดลองจำนวน 38 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 37 คน ค่าเฉลี่ยของอายุนักเรียนทั้งสองกลุ่ม 13 ปี นักเรียนในกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมควบคุมคราบจุลินทรีย์และติดตามผลตลอดสามสัปดาห์อย่างต่อเนื่องได้รับการสอนสุขศึกษาแบบ Conciousness - raising type สร้างให้นักเรียนเกิดความตระหนักในการมีอนามัยในช่องปากสะอาดและต้องการปรับปรุงสภาวะปริทันต์ของตนเอง ได้รับความรู้เรื่องโรคปริทันต์และวิธีการดูแลอนามัยช่องปาก ย้อมสีฟันและใช้เครื่องมือขูด ยืนยันว่าเป็นคราบ จุลินทรีย์ด้วยตนเองฝึกทักษะการแปรงฟันและการใช้เส้นใยขัดซอกฟันโดยเน้นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค สนับสนุนอุปกรณ์การดูแลอนามัยในช่องปาก สร้างแรงจูงใจเชิงบวก ใช้อิทธิพล กลุ่มให้ข้อมูลย้อนกลับและแข่งขันเพื่อกระตุ้นกิจกรรมการดูแลอนามัยช่องปากด้วยตนเองตลอดระยะเวลาที่ทำการศึกษา ในกลุ่มควบคุมได้รับเฉพาะความรู้เกี่ยวกับโรคปริทันต์และการดูแลอนามัยในช่องปาก เวลาที่ใช้ในการศึกษาเก้าสัปดาห์ ทั้งสองกลุ่มได้รับการตรวจดัชนีคราบจุลินทรีย์ หินน้ำลายของ Green และ Vermillion และ สภาวะเหงือกอักเสบของ Muhlemann และ Son ก่อนและสิ้นสุดการศึกษา ผลการวิจัยพบว่ามีการลดลงของค่าเฉลี่ยความแตกต่างของคราบ จุลินทรีย์และสภาวะเหงือกอักเสบในกลุ่มทดลองแตกต่างกับกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (lapha = 0.05) แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของค่าเฉลี่ยหินน้ำลายทั้งสองกลุ่ม สรุปได้ว่าโปรแกรมควบคุมคราบจุลินทรีย์ด้วยตนเองนี้มีประสิทธิผลในการลดคราบจุลินทรีย์และสภาวะเหงือกอักเสบแต่ไม่มีผลต่อหินน้ำลายในกลุ่มวัยรุ่น | en |
dc.description.abstractalternative | Studies the effectiveness of the plaque control programme in reducing the plaque accumulation, gingival condition and calculus formation. Students, Matayom 1 (Grade 7), of Wat Rajathivas Public Secondary School were randomly selected into two groups, the experimental group (38 cases) and the control group (37 cases). The average age of all samples were 13 years. Students in the experimental group were trained in the plaque control programme and followed up for three weeks consecutively. Includingly, in the plaque control programme were implementing the health education principle by using the conciousness-raising type; educating the conceptual knowledge of periodontal disease and how to take care of oral hygiene; using disclosing agent and applied toothpick device to confirm the plaque deposit by themselves; practicing toothbrushing and flossing by focusing at the risk area; supporting oral hygiene devices; stimulating the positive motivation, group drive, feed back, and competition to reinforce the activities of oral health selfcare through the whole programme. Students in the control group were only educated about the conceptual knowledge of periodontal disease and how to take care of oral hygiene. The total time of study was nine weeks. At the starting and the end of the programme, both of two groups were examined plaque, calculus by using the Green and Vermillion 's index and gingival condition by using Muhlemann and Son's index. It was found that there were statistically significant differences between two groups in reducing the mean difference of plaque and gingival condition at the 0.05 level (lapha = 0.05). However, there was not statistically significant difference in calculus formation at the 0.05 level. This study was concluded that the plaque control programme had effected in reducing plaque deposit and gingival condition but not in calculus formation among these adolescents. | en |
dc.format.extent | 804230 bytes | - |
dc.format.extent | 921172 bytes | - |
dc.format.extent | 978880 bytes | - |
dc.format.extent | 1133312 bytes | - |
dc.format.extent | 784181 bytes | - |
dc.format.extent | 817765 bytes | - |
dc.format.extent | 967719 bytes | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.language.iso | th | es |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.subject | ปาก -- การดูแลและสุขวิทยา | en |
dc.subject | เหงือกอักเสบ | en |
dc.subject | หินน้ำลาย | en |
dc.subject | ทันตานามัย | en |
dc.subject | ทันตสุขศึกษา | en |
dc.subject | คราบจุลินทรีย์ | en |
dc.title | ประสิทธิผลของโปรแกรมควบคุมคราบจุลินทรีย์ในนักเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนวัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย | en |
dc.title.alternative | The effectiveness of plaque control programme in adolescents, Wat Rajathivas public secondary school Bangkok Thailand | en |
dc.type | Thesis | es |
dc.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | es |
dc.degree.level | ปริญญาโท | es |
dc.degree.discipline | ทันตสาธารณสุขศาสตร์ | es |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.email.advisor | Sompol.L@Chula.ac.th | - |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Puangtong_Le_front.pdf | 785.38 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_ch1.pdf | 899.58 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_ch2.pdf | 955.94 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_ch3.pdf | 1.11 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_ch4.pdf | 765.8 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_ch5.pdf | 798.6 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Puangtong_Le_back.pdf | 945.04 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.