Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11641
Title: การเลือกวงแหวน การจัดเส้นทาง และการจัดสรรความยาวคลื่นในโครงข่ายแบบหลายความยาวคลื่น ที่มีการป้องกันโครงข่ายเชื่อมโยงหนึ่งเสียหาย
Other Titles: Ring selection routing and wavelength allocation in multiwavelenght Network with single link failure protection
Authors: พรชัย ธนาคมสาคร
Advisors: ลัญจกร วุฒิสิทธิกุลกิจ
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
Advisor's Email: Lunchakorn.W@Chula.ac.th
Subjects: แบบจำลองทางคณิตศาสตร์
เส้นใยนำแสง
การมัลติเพลกซ์แบบแบ่งความยาวคลื่น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
Issue Date: 2544
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นำเสนอแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้สำหรับการจัดสรรวงแหวน เส้นทาง และความยาวคลื่นในโครงข่ายแบบหลายความยาวคลื่นที่มีโครงสร้างแบบวงแหวนหลายวงเพื่อให้โครงข่ายสามารถรองรับความต้องการทราฟฟิกได้ทั้งในสภาวะการใช้งานปกติและสภาวะเมื่อเกิดความเสียหายจากข่ายเชื่อมโยงหนึ่ง การจัดสรรวงแหวน เส้นทาง และความยาวคลื่นในโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงจะใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์แบบ Integer Linear Programming (ILP) เพื่อใช้ในการหาต้นทุนของโครงข่ายซึ่งวัดจากจำนวนเส้นใยแก้วนำแสงน้อยที่สุดที่ใช้รองรับความต้องการทราฟฟิกของโครงข่าย โดยงานวิจัยนี้แบ่งโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงออกเป็น 2 แบบตามลักษณะของวิธีที่ใช้ในการรองรับทราฟฟิก แบบแรกทราฟฟิกแต่ละทราฟฟิกระหว่างคู่โนดต้องส่งจากโนดต้นทางไปยังโนดปลายทางโดยใช้วงแหวนเพียงวงเดียว ส่วนแบบที่สองทราฟฟิกแต่ละทราฟฟิกระหว่างคู่โนดสามารถส่งจากโนดต้นทางไปยังโนดปลายทางโดยใช้วงแหวนมากกว่าหนึ่งวง ซึ่งหมายความว่าทราฟฟิกจะถูกส่งผ่านจากวงแหวนหนึ่งไปยังอีกวงแหวนหนึ่งที่อยู่ติดกันได้ วัตถุประสงค์ของวิทยานิพนธ์นี้ คือ วิเคราะห์และเปรียบเทียบต้นทุนที่ต้องจัดสรรให้กับวิธีการออกแบบโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงทั้ง 2 แบบ ซึ่งในกระบวนการออกแบบได้ทำการวิเคราะห์ถึงอิทธิพลของอุปกรณ์แปลงผันความยาวคลื่น และจำนวนความยาวคลื่นมากที่สุดที่สามารถมัลติเพลกซ์ได้ในเส้นใยแก้วนำแสง (M) ว่ามีผลอย่างไรต่อต้นทุนโครงข่าย นอกจากนี้วิทยานิพนธ์นี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนระหว่างโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงกับโครงข่ายแบบเมช จากการทดสอบโดยการจำลองแบบด้วยโครงข่ายตัวอย่างพบว่า วิธีการออกแบบโครงข่ายแบบวงแหวน หลายวงแบบที่สองมีต้นทุนที่ต่ำกว่าแบบแรก แต่ข้อด้อยของแบบที่สอง คือ มีความซับซ้อนมากกว่า และเมื่อศึกษาถึงผลของอุปกรณ์แปลงผันความยาวคลื่น พบว่า ในสภาวะที่ต้องมีการเผื่อความจุสำรอง อุปกรณ์แปลงผันความยาวคลื่นเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงสำหรับค่า M บางค่าเท่านั้น ส่วนค่าของ M จะส่งผลต่อจำนวนเส้นใยแก้วนำแสงและจำนวนวงแหวนที่จัดสรรให้กับโครงข่ายดังนี้คือ เมื่อค่า M เพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนเส้นใยแก้วนำแสงและจำนวนวงแหวนลดลง นอกจากนั้น จากการเปรียบเทียบต้นทุนกับโครงข่ายแบบเมชพบว่า ในสภาวะปกติต้นทุนของโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงทั้ง 2 แบบมีค่าทัดเทียมกับโครงข่ายแบบเมช แต่ในสภาวะที่ต้องมีการเผื่อความจุสำรองพบว่าโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงทั้ง 2 แบบจะมีค่าสูงกว่าต้นทุนที่ได้จากการออกแบบโครงข่ายแบบเมชไม่เกิน 19 % อย่างไรก็ตาม โครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงก็ยังถือว่าเป็นวิธีการออกแบบที่มีการป้องกันความเสียหายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยใช้อุปกรณ์ทางแสงที่ไม่ซับซ้อน แสดงให้เห็นว่า วิธีการออกแบบโครงข่ายแบบวงแหวนหลายวงที่เสนอสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Other Abstract: This thesis presents mathematical models for ring selection, routing and wavelength allocation in multi-wavelength multi-ring networks to support traffic demand both in case of normal operation and all single link failure scenarios. For ring selection, routing and wavelength allocation in multi-ring networks, mathematical model formulations based on the Integer Linear Programming (ILP) are used to determine the network costs which are measured in terms of the optimal number of fibers required for supporting a given traffic demand. In this research, multi-ring networks can be classified into two techniques according to the way in which traffic demands are supported. In the first, any traffic between any node pair must be restricted to transmit from a source node to a destination node over only one ring. In the second technique, any traffic between any node pair can be transmitted from a source node into a destination node using more than one ring, i.e. traffic may be transmitted through a number of adjacent rings. The main objective of this thesis is to analyze and compare the network costs between two multi-ring design techniques. In the design process, various salient design aspects are identified and comprehensively addressed. These include the influence of wavelength conversion and the number of wavelengths multiplexed in a fiber (M) on the system design and performance. Moreover, the cost of the multi-ring and mesh design approaches are compared. In the study, based on our simulation on some sample networks, it is shown that the second technique of multi-ring design can achieve the lower cost than the first one, but its shortcomings lie in the complexity. From the wavelength-converter-effect evaluation, it is revealed that under the failure scenario, the wavelength converter is a necessary device in multi-ring networks for only some values of M. The values of M have effect on the number of fibers and the number of rings which are allocated to networks, i.e. if M value increases, it will make number of fibers and number of rings decreased. In addition, comparing the design costs between the multi-ring and mesh design approaches, it is found that under normal operation, the cost difference is not substantial. On the contrary, under the failure scenario, it appears that multi-ring networks require less than 19 % additional costs in comparison to the mesh network design. However, the multi-ring network is a design approach that offers fast and effective restoration against link failures using relatively simple optical equipment as opposed to the mesh design counterpart. Consequently, the multi-ring network design is considered suitable and effective for practical applications.
Description: วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544
Degree Name: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: วิศวกรรมไฟฟ้า
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11641
ISBN: 9740306691
Type: Thesis
Appears in Collections:Eng - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
PornchaiThana.pdf996.25 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.