Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11739
Title: | ความรู้ เจตคติ และทักษะทางความคิดของอาจารย์ที่ปรึกษา ต่อปัญหาสุขภาพจิตในนิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Other Titles: | Knowledge, attitude, and cognitive skill of academic advisors toward mental health problems in Chulalongkorn medical students |
Authors: | พิณทอง ลิ่มพงศธร |
Advisors: | อัมพล สูอำพัน |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์ |
Advisor's Email: | Umpon.S@Chula.ac.th |
Subjects: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์ -- นักศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา สุขภาพจิต นักศึกษาแพทย์ |
Issue Date: | 2543 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | ศึกษาความรู้ เจตคติ และทักษะทางความคิดของอาจารย์ที่ปรึกษา ต่อปัญหาสุขภาพจิตในนิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปัจจัยส่วนบุคคลของอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีความสัมพันธ์กับ ระดับความรู้ เจตคติ และทักษะทางความคิด ประชากรตัวอย่างในการศึกษา คืออาจารย์ที่ปรึกษาของนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2543 และอาจารย์ทุกท่านที่เคยเป็นอาจารย์ที่ปรึกษามาแล้วอย่างน้อย 1 วาระนับตั้งแต่ปีการศึกษา 2523-2543 รวมทั้งสิ้น 273 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือแล้ว วิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปอร์เซนต์ไทล์ และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์โดยการคำนวณค่าไคสแควร์ ผลการวิจัยที่สำคัญมีดังนี้ 1. ในภาพรวมของความรู้ต่อปัญหาสุขภาพจิต อาจารย์ที่ปรึกษาของนิสิตแพทย์ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 40.1) มีความรู้ต่อปัญหาสุขภาพจิตในระดับพอใช้ ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์คือ ภาควิชาที่สังกัด สถานภาพสมรส จำนวนบุตร จำนวนครั้งที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และตำแหน่งทางวิชาการ มีความสัพทันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยอาจารย์ที่สังกัดภาควิชาคลินิก สถานภาพสมรสคู่ มีบุตร 2 คน เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา 4 ครั้งขึ้นไป หรือมีตำแหน่งทางวิชาการเป็นอาจารย์ มีความรู้ต่อปัญหาสุขภาพจิตในระดับดีในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอื่น 2. ในภาพรวมของเจตคติต่อปัญหาสุขภาพจิต อาจารย์ที่ปรึกษาของนิสิตแพทย์ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 45.8) มีเจตคติในระดับพอใช้ ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์คือ เพศ อายุ สาขาวิชาชีพ ภาควิชาที่สังกัด อายุราชการ จำนวนครั้งที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา รวมเวลาที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และตำแหน่งทางวิชาการ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยอาจารย์เพศชาย อายุระหว่าง 40-49 ปี สาขาวิชาชีพแพทย์ สังกัดภาควิชาคลินิก อายุราชการ 11-15 ปี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษามาแล้ว 3-6 ปี หรืออาจารย์ที่เป็นศาสตราจารย์ มีเจตคติในระดับดีในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอื่น 3. ในภาพรวมของทักษะทางความคิดต่อปัญหาสุขภาพจิต อาจารย์ที่ปรึกษาของนิสิตแพทย์ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 45.8) มีทักษณะทางความคิดในระดับพอใช้ ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์คือ เพศ การเข้าร่วมสัมมนาอาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหาสุขภาพจิตของนิสิตในความดูแล และการเข้าพบของนิสิต มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยอาจารย์เพศหญิง อาจารย์ที่เคยเข้าร่วมสัมมนาอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ที่นิสิตมีปัญหาสุขภาพจิตและได้ส่งพบจิตแพทย์ หรืออาจารย์ที่นิสิตมาพบเพื่อขอปรึกษาเรื่องทั่วไป มีทักษะทางความคิดในระดับดีในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอื่น |
Other Abstract: | To determine knowledge, attitudes, and cognitive skills of academic advisors toward mental health problems in Chulalongkorn medical students, and to examine their relationships with personal factors. The study samples were 273 academic advisors of medical students from the academic year 1980 to 2000. The pre-tested self-administered questionnaire developed by researcher was employed. Statistical methods used in data analysis included percent, mean, standard deviation, percentile, and Chi-square test. Research results were as follows: 1. Knowledge regarding mental health problems of the majority of advisors was at the fair level (40.1%). Personal factors that had statistically significant relationship with knowledge of mental health problems were department, marital status, number of child in the family, frequencies of being academic advisor, and academic position. These advisors who werer: being in clinical departments, married, having 2 children, being advisors more than 4 times, or being instructors, had a proportion in high level of knowledge more than other groups. 2. Most of the advisors' attitudes toward mental health problems were at the fair level (45.8%). Personal factors that had statistically significant relationship with attitudes toward mental health problems were sex, age, occupation, department, academic experience, frequencies of being academic advisor, total period of time being academic advisor, and academic position. These advisors who were: male, 40-49 years of ages, being doctors, being in clinical departments, having 11-15 years in academic experiences, being advisors at first time, being advisors less than 3 years, or being professors, had a proportion in high level of attitudes more than other groups. 3. Most of the advisors' cognitive skills in mental health problems were at the fair level (45.8%). Personal factors that had statistically significant relationship with cognitive skills in mental health problems were sex, advisor seminar participation, students' mental health, and students' purpose for attending. These advisors who were: female, attendants in advisor seminars, referrers of students with mental health problems to be treated by psychiatrist, or attended by students for consulting general problems, had a proportion in high levle of cognitive skills more than other groups. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | สุขภาพจิต |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11739 |
ISBN: | 9741309872 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Med - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Pintong.pdf | 2.18 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.