Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13885
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorยุพิน อังสุโรจน์-
dc.contributor.authorกาญจนา ธานะ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์-
dc.coverage.spatialกรุงเทพมหานคร-
dc.date.accessioned2010-11-11T11:19:13Z-
dc.date.available2010-11-11T11:19:13Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13885-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2551en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความฉลาดทางอารมณ์ สภาพแวดล้อมในการทำงาน และภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย และศึกษาตัวแปรที่ร่วมกันพยากรณ์ภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง คือ หัวหน้าหอผู้ป่วย จำนวน 229 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล ความฉลาดทางอารมณ์ สภาพแวดล้อมในการทำงาน และภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยน ได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน และวิเคราะห์หาความเที่ยงด้วยการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค มีค่าเท่ากับ .89, .91 และ .94 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์การจรณ์ สถิติทดสอบ ไคสแคว์ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลวิจัยสรุปได้ดังนี้1.ภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับสูง ([Mean] = 4.09, SD = .43) 2.ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์ทางบวกกับภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (C = .19) ประสบการณ์การทำงาน และการได้รับการอบรมทางหลักสูตรการบริหาร ไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร 3. ความฉลาดทางอารมณ์ และสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง กับภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (r = .57 และ .60 ตามลำดับ) 4. ตัวแปรที่สามารถร่วมกันพยากรณ์ภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ความฉลาดทางอารมณ์ และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยสามารถร่วมกันพยากรณ์ภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วยได้ร้อยละ 50.9 และเขียนสมการพยากรณ์ ในรูปคะแนนมาตรฐาน ได้ดังนี้ Z [subscript ภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยน ]= .600 Z[subscript สภาพแวดล้อมการทำงาน] + . 591 Z[subscript ความฉลาดทางอารมณ์]en
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were to study adaptive leadership of head nurses, to examine the relationships between personal factors, emotional intelligence, working environment and adaptive leadership, and to search for the variables which could predict adaptive leadership of head nurses. Subjects consisted of 229 head nurses, private hospitals, Bangkok Metropolis. Research instruments were personal factors, emotional intelligence, working environment, and adaptive leadership questionnaires which were tested for content validity by 6 experts. Cronbach’s alpha coefficient reliability were tested for reliability which were .89, .91, and .94 respectively. Data were analyzed by percentage, mean, standard deviation, contingency coefficient, Chi-square, Pearson’s product moment correlation coefficient, and stepwise multiple regression. Major findings were as follows: 1.The adaptive leadership of head nurses in private hospitals, Bangkok Metropolis was high level ([Mean] = 4.09, SD = .43). 2.Personal factors of head nurses in term of education level was positive significantly related to adaptive leadership, at the 0.05 level (C = .19). Experience and administration training were not significantly related to adaptive leadership of head nurses in private hospitals, Bangkok metropolis. 3.Emotional intelligence and working environment were positive significantly related to adaptive leadership of head nurses in private hospitals, Bangkok Metropolis at the 0.05 level (r = .57 and .60 respectively).4. Variables that could predict adaptive leadership of head nurses at .05 level were emotional intelligence and working environment. These predictors accounted for 50.9 percents of variance. The standardize formula derived from the analysis was as follow: Z [subscript adaptive .leadership] = .600 Z[subscript working environment] + .591 Z[subscript emotional intelligence]en
dc.format.extent2241513 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2008.1051-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectความฉลาดทางอารมณ์en
dc.subjectภาวะผู้นำen
dc.subjectพยาบาลen
dc.subjectโรงพยาบาลเอกชนen
dc.subjectสภาพแวดล้อมการทำงานen
dc.titleความสัมพันธ์ระว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความฉลาดทางอารมณ์ สภาพแวดล้อมในการทำงานและภาวะผู้นำการปรับเปลี่ยนของหัวหน้าหอผู้ป่วยโรงพยาบาลเอกชน เขตกรุงเทพมหานครen
dc.title.alternativeRelationships between personal factors, emotional intelligence, working environment, and adaptive leadership of head nurses, private Hospitals, Bangkok Metropolisen
dc.typeThesises
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineการบริหารการพยาบาลes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisoryupin.a@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2008.1051-
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Kanjana_th.pdf2.19 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.