การเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของธุรกิจโรงแรม

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึงการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของธุรกิจโรงแรมตามบัญชี 9 ของมาตรฐานงบการเงิน ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2519) ซึ่งเป็นรูปแบบงบการเงินสำหรับบริษัทจำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจอื่นนอกจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์และธุรกิจเก็บของในคลังสินค้า เพื่อให้ทราบถึงวิธีการเปิดเผยข้อมูล และความเพียงพอของการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของธุรกิจโรงแรม ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินและการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรม เพื่อเสนอแนะรูปแบบงบการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะข้อมูลเพื่อการวิจัยได้จากการศึกษาเอกสาร หนังสือ ตำราและงบการเงินของธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ และออกแบบสอบถามความเห็นจากผู้จัดทำและผู้ใช้งบการเงิน จากนั้นได้นำผลจากแบบสอบถามมาเปรียบเทียบกับคุณลักษณะของการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินเกี่ยวกับ ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความเพียงพอ และความสามารถเปรียบเทียบกันได้ แล้วเสนอแนะรูปแบบงบการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะ ผลของการศึกษาสรุปได้ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน ซึ่งปัจจุบันยึดตามรูปแบบบัญชี 9 ของมาตรฐานงบการเงินมีความเพียงพอ แต่ถ้ากำหนดรูปแบบมาตรฐานงบการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรมไว้ให้ก็จะทำให้เกิดความสะดวกต่อการบันทึกรายการทางการบัญชีและการจัดทำงบการเงินให้เป็นแนวทางเดียวกันมากขึ้น และยังมีความต้องการงบการเงินและข้อมูลอื่นเพิ่มเติมจากงบดุลและงบกำไรขาดทุน ได้แก่ งบกำไรสะสม งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินหรืองบกระแสเงินสดและต้องการให้แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ ปัญหาที่พบคือ ปัญหาเกี่ยวกับความยุ่งยากในการเสียภาษีการค้าที่มีอัตราภาษีการค้ามากมายหลายประเภท ความยุ่งยากในการประมาณการรายได้ค่าใช้จ่ายเพื่อคำนวณภาษีเงินได้ครึ่งปี ปัญหาเกี่ยวกับข้อบังคับที่กำหนดตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2478 ไม่ทันกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังกล่าวมีดังนี้ คือ (1) กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานภาคเอกชนของธุรกิจโรงแรมควรร่วมกันพิจารณาให้มีการปรับขยายมาตรฐานงบการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรม ซึ่งได้นำเสนอรูปแบบงบดุล งบกำไรขาดทุนและกำไรสะสม ตัวอย่างงบกระแสเงินสด และหมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยแสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ 2 ปี (2) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ควรมีการทบทวนและปรับปรุงเกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บภาษีการค้าและภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี และ (3) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ควรทบทวนและปรับปรุงเกี่ยวกับข้อบังคับที่กำหนดในพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2478 ให้ทันกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน