การศึกษาการดำเนินงานด้านการวิเคราห์อาหารและยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

Abstract

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ เป็นการศึกษาถึงการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์อาหารและยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ เพื่อศึกษาการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์อาหารและยา ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน และเพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้ การศึกษาวิจัยนี้ใช้วิธีสำรวจ และศึกษาข้อมูลทุติยภูมิในเบื้องต้น ตลอดจนสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่ และสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องด้วย ผลการศึกษาพบว่า การดำเนินงานด้านการวิเคราะห์อาหารและยา ยังมีอุปสรรคในการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย จากการศึกษาพอที่จะสรุปปัญหาและข้อเสนอแนะได้ดังนี้ ปัญหาการขาดแคลนกำลังนักวิเคราะห์อาหาร นักวิเคราะห์ยา เป็นผลให้มีงานคั่งค้างอยู่เสมอ นอกจากนี้การมอบหมายงานอื่น ๆ ให้นักวิเคราะห์ทำ เช่น การจัดทำงบประมาณของกอง การจัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ ทำให้กำลังนักวิเคราะห์ฯ ซึ่งมีไม่พออยู่แล้ว ขาดแคลนมากขึ้น เห็นควรให้สำนักงานเลขานุการกรมเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างเพราะเป็นหน้าที่โดยตรง ส่วนการจัดทำงบประมาณของกอง ควรให้เจ้าหน้าที่ธุรการเป็นผู้ทำไปพลางก่อน และเห็นควรขออัตรากำลัง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป เพื่อควบคุมงานด้านธุรการ 1 ตำแหน่ง จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัญหาทางด้านเครื่องมือ เครื่องใช้ในห้องทดลองไม่เพียงพอ และชำรุดใช้การไม่ได้ ควรรีบส่งซ่อมโดยเร็ว และควรให้มีการสำรวจตรวจสภาพครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์อยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ควรขอความร่วมมือจากศูนย์อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เพราะศูนย์ฯ มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางด้านเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เช่น การซ่อมแซมเครื่องมือ ให้คำแนะนำวิธีบำรุงรักษาเครื่องมือโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเครื่องมือ ปัญหาทางด้านสายงาน ควรให้มีการปรับปรุงสายงานของกองวิเคราะห์อาหารขึ้นใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงงานซ้ำซ้อน และจัดคนให้พอเหมาะกับสายงานแต่ละสายงานจะมีความสำคัญเท่ากัน ทำให้ง่ายแก่การบริหารงานและจะทำให้งานมีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้นอีกด้วย ปัญหาทางด้านความร่วมมือกับหน่วยราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง จากการทำวิจัยพบว่าได้รับความร่วมมือน้อย จึงเห็นว่าควรให้มีการปรึกษาหารือกันระหว่างหัวหน้างานที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าหากขาดความร่วมมือแล้ว งานจะขาดประสิทธิภาพ เช่น การส่งตัวอย่างมาครั้งละมาก ๆ ทำให้ได้รับผลการวิเคราะห์ช้า หรือหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่นำผลวิเคราะห์ไปดำเนินคดี หรือไม่นำไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ การวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารและยา ซึ่งต้องเสียทรัพย์และเวลาก็ไร้ความหมาย ผู้บริโภคจะไม่ได้รับประโยชน์