Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/25745
Title: | การใช้ปลานิล Oreochromis niloticus และสาหร่ายสไปรูลินา Spirulina platensis ในการบำบัดน้ำจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำ |
Other Titles: | Use of nile tilapia Oreochromis niloticus and Spirulina platensis as biological treatment for low salinity shrimp culture |
Authors: | หนึ่งฤทัย คุ้มเสาร์ |
Advisors: | สมเกียรติ ปิยะธีรธิติวรกุล |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Issue Date: | 2545 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | ศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำในการบำบัดน้ำทางชีวภาพของบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำความเค็มต่ำโดยใช้สาหร่ายสไปรูลินาและปลานิล เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ที่ระดับความเค็มของน้ำ 5 พีพีที ในถังไฟเบอร์ความจุ 150 ลิตร ทดลองระบบน้ำเดียวกลางแจ้ง วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design involved factorials โดยมีอัตราความหนาแน่ของสาหร่ายสไปรูลินาและปลานิลเป็นปัจจัย ที่ปัจจัยละ 3 ระดับ คือ ความหนาแน่นของสาหร่ายสไปรูลินา 0, 4.2x108 และ 8.4 x108 ไตรโคมต่อลิตร และความหนาแน่นของปลานิลที่ 0, 3 และ 6 ตัวต่อน้ำ 150 ลิตร ทำการตรวจสอบพารามิเตอร์ของคุณภาพน้ำต่างๆ ดังนี้ แอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนตรท ฟอสเฟต และคลอโรฟิลล์ โดยแต่ละค่าพารามิเตอร์จะทำการวัดทุก ๆ 2 วัน จนครบกำหนดการเลี้ยงกุ้ง 3 เดือน ตรวจวัดอุณหภูมิ ออกซิเจนละลาย พีเอช และความเข้มแสงพร้อมกับการเก็บตัวอย่างน้ำทุกครั้ง ผลการทดลอง พบว่าชุดการทดลองที่สามารถบำบัดไนเตรทได้ดีที่สุด คือชุดการทดลองที่มีการเติมสาหร่ายสไปรูลินา ความหนาแน่น 8.4 x 108 ไตรโคมต่อลิตร และมีการเลี้ยงปลานิล 3 ตัวร่วมด้วย ชุดการทดลองที่สามารถบำบัดฟอสเฟตได้ดีที่สุด คือ ชุดการทดลองที่มีการเติมสาหร่ายสไปรูลินา ความหนาแน่น 8.4 x 108 ไตรโคมต่อลิตร ผลการศึกษาความสามารถในการลดสารประกอบไนโตรเจนในรูปของแอมโมเนีย ไนเตรท รวมทั้งฟอสเฟตจากน้ำเลี้ยงกุ้งกุลา และประสิทธิภาพการสร้างเซลล์ของสาหร่ายสไปรูลินาที่ระดับความหนาแน่น 4.2 x108 และ 8.4 x108 ไตรโคมต่อลิตร พบว่าชุดมีการสร้างเซลล์และขยายจำนวนได้ดีที่สุด คือ ชุดการทดลองที่มีการเติมสาหร่ายสไปรูลินาความหนาแน่น 8.4 x108 ไตรโคมต่อลิตร ซึ่งมีความสัมพันธ์กับปริมาณแอมโมเนีย ไนเตรท และฟอสเฟตที่มีแนวโน้มลดลงเมื่อสาหร่ายสไปรูลินามีการเจริญเพิ่มขึ้น ส่วนชุดที่มีการเลี้ยงปลานิลร่วมด้วยนั้น ไม่ว่าจะมีการเติมสาหร่ายสไปรูลินาที่ความหนาแน่น 4.2 x108หรือ 8.4 x108 ไตรโคมต่อลิตร แต่ถ้ามีปลานิล 6 ตัว จะเพิ่มจำนวนได้น้อยกว่าชุดที่มีการเลี้ยงปลานิลร่วมด้วยเพียง 3 ตัว สำหรับผลผลิตกุ้งกุลาดำพบว่า การเติมสาหร่ายสไปรูลินา 8.4x108 ไตรโคมต่อลิตร มีส่วนในการเพิ่มผลผลิตกุ้งได้สูงกว่าการทดลองที่ไม่ได้เติมสาหร่าย |
Other Abstract: | Use of Spirulina and Tilapia as biological treatment for low salinity shrimp culture was conducted using 3x3 cpm[lately randomized design involved factorials. Three concentration of Spirulina platensis 0, 4.2x108 and 8.4x108 trichome/L and 3 densities of tilapia were used in treatment combination for controlling water quality in low salinity shrimp culture. The experiments were conducted of salinity 5 ppt with 150 litres experimental unit. The culture system was one water and outdoor. During 3 months of experiment, nutrients such as NH4-N, NO2-N, NO3-N and PO4-P and chlorophyll were determined every two days. Water temperature pH, DO, salinity and light intensity were determine daily. The results indicated that a treatment with Spirulina platensis 8.4x108 trichome/L and 3 tilapias gave a better reduction of nitrate concentration while a treatment with results showed that the cultured tank with Spilurina platensis 8.4x108 trichome/L and 3 tilapias reduced the most nitrate concentration while the treatment with Spilurina platensis 8.4x108 trichome/L and no tilapia could give better control of Phosphate during the whole culture period of Penaeus monodon. The results indicated that a treatment with Spilurina platensis 8.4 x108 trichome/L gave better yield of Penaeus monodon than other treatment without Spilurina platensis. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | วิทยาศาสตร์สภาวะแวดล้อม (สหสาขาวิชา) |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/25745 |
ISBN: | 9741731469 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Nungruthai_kh_front.pdf | 2.79 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch1.pdf | 1.13 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch2.pdf | 13.14 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch3.pdf | 2.36 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch4.pdf | 6.57 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch5.pdf | 2.23 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_ch6.pdf | 927.08 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Nungruthai_kh_back.pdf | 22.06 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.