Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27505
Title: การปนเปื้อนราสกุล Aspergillus ที่ผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอในเมล็ดข้าวไทย
Other Titles: Contamination of aflatoxin B1- and ochratoxin A- producing Aspergillus in thai rice grains
Authors: โนทัย กิตติกำแหง
Advisors: ชีวานันท์ เดชอุปการ
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
Advisor's Email: ไม่มีข้อมูล
Subjects: อะฟลาท็อกซิน
สารพิษจากเชื้อรา
เชื้อรา
โอคราท็อกซิน
Issue Date: 2554
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาการปนเปื้อนของราในสกุล Aspergillus ที่ผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอ ในตัวอย่างเมล็ดข้าวไทย 3 ชนิด (ข้าวเปลือกจากนา ข้าวเปลือกและข้าวสารจากโรงสี) ที่เก็บจากภาคกลางของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2553 ใน 3 ฤดูเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกัน (เดือนกุมภาพันธ์ กรกฎาคม และตุลาคม) และเพื่อศึกษาผลร่วมของอุณหภูมิและปริมาณน้ำอิสระ (water activity, A[subscript w]) ต่อการเจริญและการผลิตสารอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอของราดังกล่าว พบว่า 272 ไอโซเลต ของ Aspergillus ถูกคัดแยกจากตัวอย่างเมล็ดข้าวทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ราเขียวอมเหลือง (Aspergillus section Flavi) 197 ไอโซเลต และราดำ (Aspergillus section Nigri) 75 ไอโซเลต และพบ Aspergillus สูงในตัวอย่างข้าวเปลือกจากโรงสีของทุกฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยพบราเขียวอมเหลืองในตัวอย่างข้าวเปลือกจากโรงสีในเดือนตุลาคมมากที่สุด และพบราดำมากที่สุดในตัวอย่างข้าวเปลือกจากโรงสีของเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับการผลิตสารพิษจากรา ตัวแทนของรา section Flavi 82 ไอโซเลต และตัวแทนของรา section Nigri 65 ไอโซเลต ถูกคัดเลือกสำหรับทดสอบความ สามารถในการผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอ ตามลำดับ พบว่า 10.98 เปอร์เซ็นต์ของไอโซเลตที่คัดเลือกจาก section Flavi ผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 ได้ และ 30.77 เปอร์เซ็นต์ของไอโซเลตที่คัดเลือกจาก section Nigri ผลิตโอคราทอกซินเอได้ เมื่อนำตัวแทนของรา section Flavi ที่สามารถผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และ section Nigri ที่สามารถผลิตโอคราทอกซินเอได้ มาพิสูจน์เอกลักษณ์ทางชีววิทยาระดับโมเลกุลโดยใช้ลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ ITS1-5.8S-ITS4 ของ rRNA พบว่า รา section Flavi มีเพียงรา 2 ชนิด เท่านั้น คือ A. flavus และ A. tamarii ซึ่ง A. flavus เป็นชนิดที่พบมากที่สุดและผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 ได้มากที่สุด สำหรับ section Nigri พบรา 4 ชนิด คือ A. aculeatus ซึ่งเป็นราที่พบมากที่สุด, A. niger, A. tubingensis และ A. carbonarius ซึ่งเป็นราที่ผลิตโอคราทอกซินเอได้มากที่สุด สำหรับการศึกษาผลร่วมของอุณหภูมิและ Aw ต่อการเจริญและการผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอของราที่ผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอครา-ทอกซินเอได้มากที่สุดในอาหารแข็ง PDA และ rice medium พบว่า ทั้ง A. flavus และ A. carbonarius สามารถเจริญและผลิตสารพิษบนอาหารทั้งสองชนิดได้ที่ A[subscript w] 0.95 เท่านั้น การเจริญและการผลิตสารพิษจากราสูงสุดที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และลดลงตามอุณหภูมิที่ลดต่ำลง จากผลการทดลองทั้งหมดนี้ทำให้ทราบว่าข้าวเปลือกจากโรงสีเป็นแหล่งปนเปื้อนของราในสกุล Aspergillus ที่ผลิตอะฟลาทอกซินบี 1 และโอคราทอกซินเอระหว่างกระบวนการผลิตข้าว ดังนั้นการควบคุมปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ และ A[subscript w] สามารถใช้เป็นแนวทางในการป้องกันและเฝ้าระวังการปนเปื้อนของราเหล่านี้ในกระบวนการผลิตข้าวไทยได้
Other Abstract: The aims of this study were to examine the contamination of Aspergillus species producing aflatoxin B₁ (AFB₁) and ochratoxin A (OTA) in 3 types of Thai rice grain samples (paddy rice from field, dried paddy rice and polished rice stored from mill) collected from the central of Thailand in 2010 at 3 different harvest seasons (February, July and October) and to study the combined effect of temperature and water activity (A[subscript w]) on their growth and AFB₁ and OTA productions. Two hundred seventy-two isolates of Aspergillus were isolated with 197 isolates of yellow-green Aspergillus (Aspergillus section Flavi) and 75 isolates of black Aspergillus (Aspergillus section Nigri). The high occurrence of Aspergillus was found in dried paddy rice samples of all harvest seasons. The isolates of yellow-green Aspergillus were most abundant in dried paddy rice samples in October. Black aspergilli were most frequently isolated from dried paddy rice samples in February. For mycotoxin productions, 82 representative isolates of section Flavi and 65 representative isolates of section Nigri were selected for examination their AFB₁ and OTA productions respectively. The results showed that 10.98% of selected isolate of section Flavi produced AFB₁ and 33.77% of selected black Aspergillus isolates produced OTA. The highest incidence of mycotoxigenic Aspergillus was found in dried paddy rice samples. The maximum level of AFB₁ production was produced by yellow-green Aspergillus isolated from dried paddy rice samples in July. Black Aspergillus isolated from dried paddy rice samples in February showed the maximum amount of OTA. Representative isolates belonging to section Flavi and section Nigri with the potential to produce AFB₁ and OTA respectively were confirmed species identity by using the ITS1-5.8S-ITS4 region sequences of rRNA. There were only 2 species of section Flavi recovered, A. flavus as predominant species and main AFB₁ producer, and A. tamarii. For section Nigri, 4 species were found; A. aculeatus as predominant species, A. niger, A. tubingensis and A. carbonarius as main OTA producer. For the study of the combined effect of temperature and A[subscript w] on growth and AFB₁ and OTA productions by the main aflatoxigenic and ochatoxigenic Aspergillus on PDA culture and rice medium, the results showed that A. flavus and A. carbonarius can grow and produce mycotoxins on both medium only at A[subscript w] 0.95. The optimal growth and maximal mycotoxin production of both species were obtained at 30°C. Their growth and ability to produce mycotoxins decreased with reducing temperature. These results strongly indicate that dried paddy rice from mill could be the main source of aflatoxigenic and ochratoxigenic fungal contamination during rice production process. Controlling environmental factors as temperature and A[subscript w] could be applied for monitoring and preventing this contamination in Thai rice production.
Description: วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: จุลชีววิทยาทางอุตสาหกรรม
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27505
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2011.1993
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2011.1993
Type: Thesis
Appears in Collections:Sci - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
notai_ki.pdf2.39 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.