Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27645
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | วาสนา โกวิทยา | - |
dc.contributor.author | สมจิต เอี่ยมศุภนิมิต | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย | - |
dc.date.accessioned | 2012-12-13T19:29:21Z | - |
dc.date.available | 2012-12-13T19:29:21Z | - |
dc.date.issued | 2517 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27645 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2517 | en |
dc.description.abstract | วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาระดับความสามารในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนกวิทยาศาสตร์ ในด้านแปลความ ตีความ และขยายความ 2. เพื่อศึกษาว่าความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษทั้งสามแบบดังกล่าวของนักเรียนจะสัมพันธ์ซึ่งกันและกันหรือไม่ เพียงใด 3. เพื่อศึกษาว่าปัจจัยต่อไปนี้คือ เพศ อายุ และสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนในหมวดวิชาภาษาอังกฤษจะมีผลต่อความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษ ของนักเรียนหรือไม่ อย่างไร 4. เพื่อศึกษาความคิดเห็นประเด็นสำคัญต่างๆ ของนักเรียนที่มีต่อการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษ วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยสร้างแบบทดสอบความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษ 3 ชุด คือ แบบสอบถามแปลความ แบบสอบถามตีความ และแบบทดสอบขยายความ ชุดละ 20 ข้อ และสร้างแบบสอบถามความคิดเห็นประเด็นสำคัญต่างๆ ของนักเรียนที่มีต่อการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษ 1 ชุด เป็นแบบสอบถามแบบประเมินค่า และแบบเลือกตอบ ตัวอย่างประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนกวิทยาศาสตร์ โรงเรียนรัฐบาล กรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน ชาย 150 คน หญิง 150 คน ผู้วิจัยได้นำคะแนนที่ได้จากการตอบแบบทดสอบมาวิเคราะห์หาคำตอบตามที่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ โดยหาค่าสัมประสิทธิ์แห่งความเชื่อถือได้ของแบบทดสอบ หาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์แห่งสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และค่า z ส่วนแบบสอบถามนำมาวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ยและอัตราร้อยละ ผลของการวิจัย 1. ระดับความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนกวิทยาศาสตร์ ในด้านแปลความ ตีความ และขยายความ ยังอยู่ในระดับไม่ดีพอ นักเรียนได้คะแนนจากแบบทดสอบตีความสูงสุด รองลงมาคือแบบทดสอบขยายความ อันดับสุดท้ายคือจากแบบทดสอบแปลความ 2. ความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษทั้งสามแบบดังกล่าวของนักเรียนสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อยู่ในระดับกลาง มีนัยสำคัญที่ระดับ .01 3. คะแนนที่นักเรียนได้จากแบบทดสอบทั้งสามแบบของผู้วิจัยกับคะแนนหมวดวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนสัมพันธ์กัน มีค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์อยู่ในระดับกลางถึงสูง มีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และ .05 4. นักเรียนหญิงมีความสามารถในการอ่านแบบทดสอบขยายความสูงกว่านักเรียนชายอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ส่วนการอ่านแบบทดสอบแปลความ และแบบทดสอบตีความนั้น นักเรียนชาย และนักเรียนหญิงมีความสามารถไม่แตกต่างกัน 5. นักเรียนหญิงในช่วงอายุระหว่าง 17 ปี 5 เดือน - 18 ปี 4 เดือน มีความสามารถในการอ่านแบบทดสอบแปลความสูงกว่านักเรียนชายในช่วงอายุเดียวกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ส่วนการอ่านแบบแปลความในช่วงอายุอื่นที่กำหนด และการอ่านแบบตีความและขยายความในทุกช่วงอายที่กำหนดนั้น นักเรียนชาย และนักเรียนหญิงมีความสามารถไม่แตกต่างกัน 6. นักเรียนมีความสนใจในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษมาก เห็นว่าความรู้เรื่องคำศัพท์ และโครงสร้างของประโยคสำคัญต่อการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษมาก แต่ประสบปัญหาเรื่องคำศัพท์มากที่สุดในการอ่าน นักเรียนต้องการให้ครูแปลเนื้อเรื่องที่อ่านเป็นภาษาไทยพอสมควร นักเรียนได้รับการฝึกอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษพอสมควร ชอบใช้พจนานุกรรมประกอบการอ่านพอสมควร เรื่องราวที่นักเรียนชอบอ่านมากที่สุดคือเรื่องขบขัน สิ่งที่ต้องการให้ครูอธิบายให้ฟังมากที่สุดคือเนื้อเรื่อง วิธีที่ใช้ตอบคำถามมากที่สุดคือ การอ่านเรื่องให้เข้าใจตลอดแล้วจึงตอบคำถาม ข้อเสนอแนะ ควรมีการปรับปรุงการเรียนการสอนอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนกวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษที่เหนือกว่าระดับความจำมากกว่านี้ เพราะผลจากการวิจัยปรากฏว่า ความสามารถในการอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษแบบแปลความ แบบตีความ และแบบขยายความซึ่งเป็นการอ่านที่เหนือระดับความจำของนักเรียนยังอยู่ในขั้นที่ไม่ดีนัก | - |
dc.description.abstractalternative | Purposes The purposes of this research were to investigate the level of English reading comprehension ability in paraphrasing, interpretation and extrapolation of Matayom Suksa 4 science students; whether the students’ English reading comprehension ability of the three above indicated skills were correlated or not; and to what extent they were correlated; whether sex, age and the students’ proficiency in the English subjects effected their ability to comprehend by the three above indicated skills; and to investigate the students’ significant points of view towards English reading comprehension. Procedure Three sets of English reading comprehension tests were constructed by the researcher; the paraphrasing test, the interpretation test and the extrapolation test. Each test consisted of twenty multiple choice questions. Students’ significant points of view towards English reading comprehension were collected from questionnaires prepared by the researcher. The form of the questionnaires was rating scale and multiple choice. 300 Matayom Suksa 4 science students, 150 boys and 150 girls, from the secondary government schools in Bangkok Metropolis were selected at random. The results from the tests were calculated to investigate the reliability of the test; then they were computed by mean, standard deviation, Pearson’s product moment correlation coefficient and the z-test. Facts from the questionnaires were analyzed by mean and percentages. Results 1. The level of English reading comprehension ability in paraphrasing, interpretation and extrapolation of Matayom Suksa 4 science students was still unsatisfactory. The most unsatisfactory one was the paraphrasing test. 2. The students’ ability to comprehend the three above indicated English reading comprehension tests was moderately correlated. The level of significance was at .01. 3. The correlation of the marks which the students gained from the researcher’s tests and their marks of the English subjects ranged from moderate to high. The level of significance was at .01 and .05. 4. Girls comprehended the extrapolation test better than boys at the .05 level of significance. There wasn’t a difference in ability to comprehend the paraphrasing test and the interpretation test between boys and girls. 5. At the level of 17 years 5 months to 18 years 4 months, girls comprehended the paraphrasing test better than boys at the .05 level of significance. The ability to comprehend the paraphrasing test at other given age levels and the ability to comprehend the interpretation test and the extrapolation test at every given age level between boys and girls wasn’t different. 6. Students took much interest in English reading comprehension. The vocabulary and structure knowledge was considered significant by them. Students had many problems concerning vocabulary in reading. Teacher’s translation and explanation of the reading materials were needed. Answering the questions after the reading was considered favourable. Recommendations There should be and improvement in the teaching and learning of English reading comprehension of Matayom Suksa 4 science students in order that students would gain more ability in comprehending questions above memory level. Results from the research indicated that the students’ ability to comprehend by paraphrasing, interpretation and extrapolation which are the skills above the memory level was still unsatisfactory. | - |
dc.format.extent | 670255 bytes | - |
dc.format.extent | 965108 bytes | - |
dc.format.extent | 1326390 bytes | - |
dc.format.extent | 774404 bytes | - |
dc.format.extent | 857034 bytes | - |
dc.format.extent | 769244 bytes | - |
dc.format.extent | 2385510 bytes | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.language.iso | th | es |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.title | การอ่านเอาเรื่องภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ แผนกวิทยาศาสตร์ | en |
dc.title.alternative | English reading comprehension of matayom suksa four science students | en |
dc.type | Thesis | es |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | es |
dc.degree.level | ปริญญาโท | es |
dc.degree.discipline | มัธยมศึกษา | es |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Somchit_Ia_front.pdf | 654.55 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_ch1.pdf | 942.49 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_ch2.pdf | 1.3 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_ch3.pdf | 756.25 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_ch4.pdf | 836.95 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_ch5.pdf | 751.21 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Somchit_Ia_back.pdf | 2.33 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.