Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32004
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอัมพิกา ไกรฤทธิ์
dc.contributor.advisorชลัช ชวกุล
dc.contributor.authorเอกชัย จิตต์รุ่งเรืองสุข
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย
dc.date.accessioned2013-06-05T09:53:39Z
dc.date.available2013-06-05T09:53:39Z
dc.date.issued2538
dc.identifier.isbn9746323474
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32004
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538en
dc.description.abstractวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ เป็นการออกแบบและทดสอบเครื่องมือเพื่อกำจัดการปนเปื้อนด้วยแบคทีเรียและฟังกัส ในระบบการเตรียมส่วนประกอบโลหิต และแยกส่วนประกอบของพลาสมาซึ่งต้องการความสะอาดของสถานที่เป็นอย่างมาก และเพื่อป้องกันการติดเชื้อของผลิตภัณฑ์และวัสดุระหว่างผลิต โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องมือผลิตก๊าซโอโซนที่ใช้ในการกำจัดแบคทีเรียและฟังกัส โดยใช้หลอดอุลตราไวโอเลต ที่มีความยาวคลื่นของแสงต่ำกว่า 200 นาโนเมตร และวิเคราะห์ ความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์วิศวกรรมในการผลิตของเครื่องมือนี้เปรียบเทียบกับวิธีการรมด้วยฟอร์มาลีนทำปฏิกิริยากับด่างทับทิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันผลการวิจัยสามารถสรุปได้ดังนี้ 1. ลักษณะของความสามารถในการกำจัดแบคทีเรียและฟังกัสของเครื่องมือในช่วงต้นของระยะเวลาการฉีดพ่น มีอัตราที่สูงกว่าช่วงระยะเวลาการฉีดพ่นที่มากขึ้น 2. ระยะเวลาการฉีดพ่นก๊าซโอโซนของเครื่องมือ ที่เหมาะสมต่อการกำจัดแบคทีเรีย และฟังกัส สำหรับสภาวะและขนาดของห้องตัวอย่างที่ทำการวิจัย คือ 4.0 ชั่วโมง โดยมีความสามารถในการกำจัดแบคทีเรียและฟังกัสได้ 84.7% และ 83.0% ตามลำดับ 3. จากการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์วิศวกรรม พบว่า การใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้น สามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดแต่ละครั้งเมื่อเทียบกับการรมห้องด้วยวิธีเดิมได้ถึง 5.94 เท่า นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือนี้ยังมีความสะดวกต่อการนำไปใช้งานมากกว่าและไม่มีสารเคมีที่จะตกค้างและเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน อีกด้วย
dc.description.abstractalternativeThis thesis was to design and test an equipment to eliminate bacteria and fungus contamination in the system of blood component preparation and plasma fractionation for protecting the disinfection of products and work-in process materials. The main task was to construct a set of ultraviolet lamp-ozone generated bulbs to eliminate bacteria and fungus. The wave length of the ultraviolet light is limited to less than 200 nm. Engineering economic analysis was also conducted to compare ozone fumigation method and the existing chemical method. The results are as follows: 1. Bacteria and fungus elimination rate is higher at the beginning of the fumigation process than that at later time. 2.The appropriate fumigation time for the tested room and conditions is 4 hours. The efficiencies to eliminate bacteria and fungus are 84.7% and 83.0%, respectively. 3. Engineering economic analysis shows a cost reduction of 5.94 times of the original procedure. Furthermore, the new method offers much easier and more convenient process.
dc.format.extent6445277 bytes
dc.format.extent4540427 bytes
dc.format.extent9297489 bytes
dc.format.extent5587536 bytes
dc.format.extent5965818 bytes
dc.format.extent11929146 bytes
dc.format.extent2156446 bytes
dc.format.extent12936458 bytes
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.titleการออกแบบเครื่องมือ เพื่อกำจัดการปนเปื้อนด้วยแบคทีเรีย และฟังกัส ในระบบการเตรียมส่วนประกอบโลหิต และแยกส่วนประกอบของพลาสมาen
dc.title.alternativeDesign of equipment to eliminate bacteria and fungus contamination in the system of blood component preparation and plasma fractionationen
dc.typeThesises
dc.degree.nameวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineวิศวกรรมอุตสาหการes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Eakkachai_ji_front.pdf6.29 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch1.pdf4.43 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch2.pdf9.08 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch3.pdf5.46 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch4.pdf5.83 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch5.pdf11.65 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_ch6.pdf2.11 MBAdobe PDFView/Open
Eakkachai_ji_back.pdf12.63 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.