Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/3909
Title: | การศึกษาเทคนิคและกลวิธีการเล่นเป็นทีมในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง : การศึกษารายกรณีกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 32 |
Other Titles: | A study of team playing techniques and tactics in women volleyball competition : a case study of the Thirty-Second National Sport Games |
Authors: | หนึ่งฤทัย รอดงาม, 2519- |
Advisors: | เทพประสิทธิ์ กุลธวัชวิชัย |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ |
Advisor's Email: | Tepprasit.G@chula.ac.th |
Subjects: | วอลเลย์บอล ยุทธวิธี กีฬาแห่งชาติ (ครั้งที่ 32 : 2543) |
Issue Date: | 2543 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา เทคนิค กลวิธี และผลสัมฤทธิ์ ของการใช้เทคนิคและกลวิธีแต่ละแบบของการเล่นเป็นทีมของแต่ละทีม ในแต่ละเกมและโดยรวมของทุกทีมและทุกเกม ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 32 ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการไปบันทึกเทปการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง กีฬาแห่งชาติครั้ง 32 ในรอบ สี่ทีมสุดท้าย นำข้อมูลมาทำการแจกแจงความถี่แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูลตามวิธีทางสถิติโดยการหาค่าร้อยละ แล้วนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียง ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาการใช้เทคนิค และผลสัมฤทธิ์ของการใช้เทคนิคแต่ละแบบของการเล่นเป็นทีม ของทีมที่แข่งขันตามลำดับผลการแข่งขันจากสูงสุดในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิง กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 32 เรียงลำดับทีมดังนี้ ทีม นครราชสีมา ทีมลพบุรี ทีมพังงา และทีมกรุงเทพมหานคร พบว่า การใช้เทคนิคการเสิร์ฟ ทุกทีม ทุกเกม ใช้การเสิร์ฟแบบลอยมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 30.82, 22.62, 18.85, 23.28 เทคนิคการเล่นลูกสองมือล่าง ทุกทีม ทุกเกมใช้การเล่นลูกโด่งมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ ร้อยละ 22.50, 21.94, 17.80 เทคนิคการเซ็ท ทุกทีม ทุกเกม ใช้การเซ็ทลูกระยะไกลมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 35.06, 28.08, 19.50, 16.28 เทคนิคการตบ ทุกทีม ทุกเกม ใช้การตบลงท้ายสนามมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 13.71, 13.71, 13.99, 10.25 เทคนิคการหยอด ทุกทีม ทุกเกม ใช้การหยอดโดยใช้ปลายนิ้วมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 32.03, 17.65, 20.26, 16.99 ผลการศึกษาการใช้กลวิธีแต่ละแบบ ของการเล่นเป็นทีม ของทีมที่แข่งขันตามลำดับผลการแข่งขันจากสูงสุด ในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิง กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 32 เรียงลำดับทีมดังนี้ ทีม นครราชสีมา ทีมลพบุรี ทีมพังงา และทีมกรุงเทพมหานคร พบว่า การใช้กลวิธีการตั้งรับขณะทำการตบ ทุกทีม ทุกเกม ใช้กลวิธีการตั้งรับขณะผู้หน้า 2 คน แบบ 1:2:3 มากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 30.60, 23.50, 19.40, 21.86 และ หน้า 3 คน แบบ 1:2:3 มากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 25.62, 28.92, 17.08, 21.21 การใช้กลวิธีการตั้งรับขณะทำการสกัดกั้นกลางตาข่าย ทุกทีม ทุกเกม ใช้แบบสกัดกั้นแบบ 1 คน แบบ 1:2:3 มากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 16.99, 10.46, 18.30, 12.42 การใช้กลวิธีการตั้งรับขณะทำการสกัดกั้นริมตาข่าย ทุกทีม ทุกเกม ใช้แบบสกัดกั้นแบบ 2 คน แบบ 2:1:3 มากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 17.05, 14.73, 17.44, 10.66 การใช้กลวิธีการตั้งรับลูกเสิร์ฟ ทุกทีม ทุกเกม ใช้แบบตัวดับเบิลยูมากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 29.07, 17.13, 24.68, 23.77 การใช้กลวิธีการรุกขณะผู้ตบหน้า 2 คนทุกทีม ทุกเกม ใช้แบบ C หน้า , B หน้า มากที่สุด ใช้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 28.57, 13.66, 21.12, 20.50 การใช้กลวิธีการรุกขณะผู้ตบหน้า 3 คน ทุกทีม ทุกเกม ใช้แบบ C หน้า, B หน้า, C หลัง มากที่สุด ใช้ได้เป็นผลสัมฤทธิ์ร้อยละ 29.10, 7.46, 23.13, 23.13 |
Other Abstract: | The purpose of this study was to investigate the techniques, tactics and achievement of the various the techniques and tactics of team playing in women volleyball competition of the Thirty-Second National Sport Games. The samples were purposively determined from the last four team. A entering the semi-final round of the tournament. The data obtained by recording video tapes were classified on the volleyball checklist, and then, analyzed in terms of percentages and presented in table with description. The results showed that: Techniques and achievements of Nakhornrachasrima Tearm, Lobburi Team, Punnga Team, Bangkok Team showed that, in service technique, floating service pattern achieved at 30.82, 22.62, 18.85, 23.28 percent. Every team used underarm technique, upper underarm pattern and achieved at 22.50, 21.94, 21.94, 17.80 percent, Every team used setting techniques, long setting pattern and achieved at 35.06, 28.08, 19.50, 16.28 percent. Every team used spiking technique, rear the field pattern and achieved at 21.40, 22.88, 23.09, 24.36 percent. Every team used blocking technique, two-blocking pattern and achieved at 13.71, 13.71, 13.99, 10.25 percent. Every team used drop techniques, by the finger pattern and achieved 32.03, 17.65, 20.26, 16.99 percent. Tactics and achievements showed that every team used covering behind the two-man spiking, 1:2:3 pattern and to achieverments 30.60, 23.50, 19.40, 21.86 percent. Every team used covering behind the three-man spiking, 1:2:3 pattern and achieved at 25.62, 28.92, 17.08, 21.21 percent. Every team used covering behind the middle net blocking, 1:2:3 pattern and achieved at 16.99, 10.46, 18.30, 12.42 percent Every team used covering behind the side net blocking, 2:1:3 pattern and achieved at 17.05, 14.73, 17.44, 10.66 percent. Every team used receiving service, W pattern and achieved at 29.07, 17.13, 24.68, 23.77 percent. Every team used offense with two-man spiking, front C, front B pattern and to achievements 28.57, 13.66, 21.12, 20.50 percent. Every team used offense with three-man spiking, fron C, front B, back C pattern and achieved at 29.10, 7.46, 23.13, 23.13 percent |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543 |
Degree Name: | ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | พลศึกษา |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/3909 |
ISBN: | 9741301936 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Edu - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Nungrutai.pdf | 2.79 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.