Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45495
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ปารีณา ศรีวนิชย์ | en_US |
dc.contributor.author | เพชรรัตน์ จีตนิยม | en_US |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ | en_US |
dc.date.accessioned | 2015-09-17T04:02:34Z | |
dc.date.available | 2015-09-17T04:02:34Z | |
dc.date.issued | 2557 | en_US |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45495 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2557 | en_US |
dc.description.abstract | ปัจจุบันการลักลอบและค้ายาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานส่วนใหญ่เป็นการดำเนินการในรูปของธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดนอกเรือนจำและมีผู้ต้องขังเป็นผู้สั่งการ ด้วยเหตุนี้ นอกจากความเสียหายจะเกิดขึ้นต่อระบบราชทัณฑ์แล้ว จึงขยายขอบเขตออกไปยังสังคมนอกเรือนจำด้วย แม้ที่ผ่านมารัฐบาลและกรมราชทัณฑ์จะกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามหลายประการเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่สามารถขจัดปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นไปจากเรือนจำและทัณฑสถานได้ จากการศึกษา พบว่าการไม่สามารถแยกผู้ต้องขังที่มีปัญหาและมีพฤติกรรมลักลอบและค้ายาเสพติดออกจากผู้ต้องขังอื่นได้อย่างเด็ดขาดนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มาตรการต่างๆ ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายยาเสพติดที่ทำให้เรือนจำและทัณฑสถานต้องรับภาระควบคุมผู้ต้องขังในคดียาเสพติดจนเกินความจำเป็น และทำให้ผู้ต้องขังที่มีศักยภาพในการลักลอบและค้ายาเสพติดยังมีช่องทางที่จะอาศัยผู้ต้องขังอื่นและบุคคลภายนอกเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดอยู่ได้ ดังนั้น มาตรการที่เหมาะสมจึงควรเป็นมาตรการที่สามารถแยกผู้ต้องขังที่มีปัญหามิให้ติดต่อหรือรับความช่วยเหลือจากผู้ต้องขังอื่นและบุคคลภายนอกได้ ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะต้องเริ่มตั้งแต่ในชั้นก่อนเข้าสู่เรือนจำ โดยนำแนวคิดการเบี่ยงเบนออกจากกระบวนการยุติธรรมมาใช้ และหากเมื่อถึงชั้นเรือนจำ แต่ละเรือนจำจะต้องมีการกำหนดมาตรการจัดการผู้ต้องขังที่มีปัญหาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน พร้อมมีเรือนจำสำหรับผู้ต้องขังกลุ่มนี้โดยเฉพาะและกำหนดให้การลักลอบและค้ายาเสพติดเป็นความผิดทางวินัยและทางอาญาขั้นสูงสุด เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวและไม่กล้าให้ความช่วยเหลือเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำ เมื่อเครือข่ายเหล่านี้ไม่มีเครื่องมือในการกระทำความผิด การลักลอบและค้ายาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานก็จะหมดสิ้นไป | en_US |
dc.description.abstractalternative | At present most of narcotic smuggling and trading in prisons operate a business which is linked to narcotic trading network outside prisons and having an inmate as a leader. This adversely affects the correctional system; the damages also spread to society outside prisons. Although the government and Department of Correctional have determined several preventive and suppressible measures to solve problem, it is unable to eliminate this problem out of prisons. The study found that prisons could not firmly separate problem inmates with narcotics smuggling and trading behavior from other inmates. It was the leading cause that affected various measures not to achieve the goals. Justice process and narcotic laws was a part that caused prisons to bear the burden of controlling inmates in narcotic case more than necessary and caused inmates who potential to smuggle and trade narcotics still had ways to use other inmates or third parties as a means to commit this offence. Therefore, the appropriate measures are measures that can separate a problem inmate from contact or help of other inmates or third parties. These measures must embark on the initial stage before entering a prison by using Diversion from justice concept. Then, in the stage inside the prison must have the same standard to deal with a problem inmate and specifically establish a prison for this type of inmates. In addition, narcotic smuggling and trading must imposed as offences that have the highest disciplinary and criminal penalties in order to cause fear and not cooperate with narcotic trading network inside prisons. When the networks come to an end, narcotic smuggling and trading in prisons have no more. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.14457/CU.the.2014.947 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | การค้ายาเสพติด -- ไทย | |
dc.subject | ทัณฑสถาน | |
dc.subject | เรือนจำ | |
dc.subject | นักโทษ | |
dc.subject | การลงโทษ | |
dc.subject | Drug traffic -- Thailand | |
dc.subject | Correctional institutions | |
dc.subject | Prisons | |
dc.subject | Prisoners | |
dc.subject | Punishment | |
dc.title | ปัญหาในการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการลักลอบนำ ยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามอื่นเข้ามาภายในเรือนจำและทัณฑสถาน | en_US |
dc.title.alternative | LEGAL MEASURES OF PREVENTION AND SUPPRESSION FOR SMUGGLING AND TRADING NARCOTICS IN PRISONS | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | นิติศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | นิติศาสตร์ | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | Pareena.S@Chula.ac.th,pareena.lawchula@gmail.com | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.14457/CU.the.2014.947 | - |
Appears in Collections: | Law - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
5486009734.pdf | 5.66 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.