Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/46440
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorรัตน์ศิริ ทาโตen_US
dc.contributor.authorประภัสสร โชคไพศาลen_US
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์en_US
dc.date.accessioned2015-09-19T03:39:15Z-
dc.date.available2015-09-19T03:39:15Z-
dc.date.issued2557en_US
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/46440-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2557en_US
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยความสัมพันธ์เชิงทำนาย เพื่อศึกษาความความสัมพันธ์และปัจจัยทำนายระหว่าง เจตคติต่อการควบคุมความดันโลหิต การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง อารมณ์ที่คาดหวังด้านบวก อารมณ์ที่คาดหวังด้านลบ การรับรู้การควบคุมพฤติกรรม และพฤติกรรมในอดีต กับพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในภาคใต้ โดยใช้แนวคิดแบบแผนเป้าหมายกำกับพฤติกรรมของ Bagozzi, Baumgartner and Pieter (1998) กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงอย่างน้อย 1 ปี มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ที่มารับบริการตรวจรักษาที่คลินิกโรคความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิในภาคใต้ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 โรงพยาบาล รวมจำนวน 260 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มอย่างง่าย รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล เจตคติต่อการควบคุมความดันโลหิต การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง อารมณ์ที่คาดหวังด้านบวก อารมณ์ที่คาดหวังด้านลบ การรับรู้การควบคุมพฤติกรรม พฤติกรรมในอดีต และแบบสอบถามพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในภาคใต้ มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอน บาค เท่ากับ .74, .80, .88, .80, .91 และ.70 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยการแจกแจงความถี่ หาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ ด้วยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน วิเคราะห์ปัจจัยทำนาย ด้วยการคำนวณหาค่าสัมประ สิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ ป่วย โรคความดันโลหิตสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ พฤติกรรมในอดีตในการควบคุมความดันโลหิต (r = .75) การรับรู้การควบคุมพฤติกรรมในการควบคุมความดันโลหิต (r =.53) และอารมณ์ที่คาดหวังด้านบวกในการควบคุมความดันโลหิต (r = .42) ส่วนอารมณ์ที่คาดหวังด้านลบในการควบคุมความดันโลหิต (r = .08) และการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการควบคุมความดันโลหิต (r = .01) ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในภาคใต้ และปัจจัยที่สามารถทำนายพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในภาคใต้ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ พฤติกรรมในอดีตในการควบคุมความดันโลหิต (b = .75) และ เจตคติต่อการควบคุมความดันโลหิต (b = .14) โดยสามารถทำนายพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตได้ร้อยละ 58.20en_US
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this study were to examine the relationships between attitude toward blood pressure control, subjective norm, positive anticipated emotion, negative anticipated emotion, perceived behavioral control, past blood pressure control behavior, and blood pressure regulation behaviors of hypertensive patients in the southern region. A theoretical framework used in study was the Model of Goal-Directed Behavior (Bagozzi, Baumgartner and Pieter, 1998). The subjects were 260 patients diagnosed with hypertension at least one year aged 18-59 years from hypertension clinics of 3 secondary hospitals in the Southern Region. Data were collected using personal data sheet, and a set of questionnaires on attitude toward blood pressure control, subjective norm, positive anticipated emotion, negative anticipated emotion, perceived behavioral control, past blood pressure control behavior, and blood pressure regulation behaviors. Their Cronbach’s coefficients were .74, .80, .88, .80, .91, and .70, respectively. Data were analyzed using bivariate correlations and stepwise multiple regression. The results demonstrated that factors significantly related to blood pressure regulation behaviors at the level of .05 were past blood pressure control behavior (r = .75), perceived behavioral control (r = .53) and positive anticipated emotion (r =.42) Negative anticipated emotion(r = .08) and subjective norm (r= .01) were not significantly associated with blood pressure regulation behavior of hypertensive patients. Significant predictors of blood pressure regulation behaviors were past blood pressure control behavior (b = .75) and attitude toward blood pressure control (b = .14). They could explain 58.20% of the variance.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2014.1231-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectความดันเลือดสูง -- ไทย (ภาคใต้)
dc.subjectความดันเลือด -- ไทย (ภาคใต้)
dc.subjectพฤติกรรมสุขภาพ -- ไทย (ภาคใต้)
dc.subjectHypertension -- Thailand, Southern
dc.subjectBlood pressure -- Thailand, Southern
dc.subjectHealth behavior -- Thailand, Southern
dc.titleปัจจัยทำนายพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในภาคใต้en_US
dc.title.alternativeFACTORS PREDICTING BLOOD PRESSURE REGULATION BEHAVIOR OF HYPERTENSIVE PATIENTS IN THE SOUTHERN REGIONen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineพยาบาลศาสตร์en_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisorRatsiri.T@chula.ac.th,ratsiri99@gmail.comen_US
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2014.1231-
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5477173436.pdf4.78 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.