Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/46718
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorSuree Choonharuangdej-
dc.contributor.advisorPrapin Manomaivibool-
dc.contributor.authorPattra Pichetsilpa-
dc.contributor.otherChulalongkorn University. Faculty of Arts-
dc.date.accessioned2015-09-23T08:08:40Z-
dc.date.available2015-09-23T08:08:40Z-
dc.date.issued2006-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/46718-
dc.descriptionThesis (M.A.)--Chulalongkorn University, 2006en_US
dc.description.abstractจุดประสงค์ของวิทยานิพนธ์ฉบับนี้คือเพื่อเสนอ "แนวทางการกำหนดความสามารถด้านการพูดภาษาจีน : กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" และเพื่อนำไปใช้เป็นมาตรฐานในการออกแบบการวัดผลทางด้านทักษะที่ใช้ในการสื่อสาร รวมทั้งสามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ในการอ้างอิงการเขียนตำราที่เกี่ยวข้องกับทักษะด้านการพูดภาษาจีนได้อีกด้วย วิทยานิพนธ์ฉบับนี้อิงมาจากแนวทางกำหนดความสามารถทางการเรียนการสอนภาษาจีนของสภาการสอนภาษาต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ American Council on the Teaching of Foreign Language Chinese Proficiency Guidelines ผู้วิจัยวิเคราะห์โครงสร้างเนื้อหาทั้งหมด และพบว่าแนวทางกำหนดความสามารถนี้ได้ยึดหลักของบทบาทภาษา 3 ประการ อันประกอบด้วย การใช้ภาษา บริบท และเนื้อหาของภาษา และความถูกต้องในการใช้ภาษา จากนั้น ผู้วิจัยได้นำบทบาททางภาษา 3 ประการมาเป็นหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์หลักสูตรวิชาเอกภาษาจีนของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแสดงระดับความสามารถในด้านการพูดของนิสิตวิชาเอกภาษาจีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้วิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างแนวทางกำหนดความสามารถทางการเรียนการสอนภาษาจีนขององค์กรภาษาต่างประเทศแห่งประเทศสหรัฐอเมริกากับแนวทางการกำหนดความสามารถด้านการพูดภาษาจีน กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าแนวทางการกำหนดความสามารถที่ผู้วิจัยเสนอนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการสื่อสารอย่างแท้จริง ผู้วิจัยเห็นว่าการวิเคราะห์เปรียบเทียบนี้มีหลักสำคัญที่ต้องคำนึงถึง 2 ประการคือ 1. การวิเคราะห์ในแนวนอนเพื่อหาข้อกำหนดความสามารถทั้งสอง 2. การวิเคราะห์ในแนวตั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านการพูดของผู้เรียน ผลการวิจัยที่ได้รับคือระดับความสามารถทางด้านการพูดทั้งต้น กลาง และสูงของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยล้วนสูงกว่าระดับความสามารถของแนวทางกำหนดความสามารถทางการเรียนการสอนภาษาจีนขององค์กรภาษาต่างประเทศแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งพัฒนาการทางด้านการพูดของนิสิตจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยก็เร็วกว่าอีกด้วย ผู้วิจัยตระหนักถึงความแตกต่างนี้ว่ามีสาเหตุมาจาก 1)วิชาเอกภาษาจีนนั้นมีจุดประสงค์ของหลักสูตรที่แน่นอน ดังนั้นทักษะทางภาษาของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงต้องเป็นไปตามจุดประสงค์นั้นๆ 2)แนวทางกำหนดความสามารถด้านการพูดจัดทำขึ้นเพื่อนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิชาเอกภาษาจีน โดยเฉพาะ 3) ภาษาไทยเป็นภาษาที่อยู่ในตระกูลภาษาเดียวกันกับภาษาจีน คือ ตระกูลภาษาจีน-ธิเบต ซึ่งมักมีระบบเสียงและหลักไวยากรณ์ที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นนิสิตไทยจึงสามารถเรียนรู้ภาษาจีนได้ค่อนข้างเร็วen_US
dc.language.isozhen_US
dc.publisherChulalongkorn Universityen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2006.2061-
dc.rightsChulalongkorn Universityen_US
dc.subjectVerbal abilityen_US
dc.subjectOral communicationen_US
dc.subjectChinese language -- Speechen_US
dc.subjectการสื่อทางภาษาพูดen_US
dc.subjectภาษาจีน -- การพูดen_US
dc.subjectความสามารถทางภาษาen_US
dc.subjectจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย -- นักศึกษาen_US
dc.titleEveryday Chinese speaking proficiency guidelines : a case study of Chulalongkorn University studentsen_US
dc.title.alternativeแนวทางการกำหนดความสามารถด้านการพูดภาษาจีนในชีวิตประจำวัน : กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameMaster of Artsen_US
dc.degree.levelMaster's Degreeen_US
dc.degree.disciplineChinese as a Foreign Languageen_US
dc.degree.grantorChulalongkorn Universityen_US
dc.email.advisorSuree.C@Chula.ac.th-
dc.email.advisorarckfas@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2006.2061-
Appears in Collections:Arts - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Pattra.pdf1.56 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.