Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52593
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | รัชนีกร หงส์พนัส | - |
dc.contributor.author | ปรางฤทัย ใจสุทธิ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2017-03-13T04:23:32Z | - |
dc.date.available | 2017-03-13T04:23:32Z | - |
dc.date.issued | 2556 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52593 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556 | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการประเมินหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และความสามารถในการคิดสังเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ และวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนโรงเรียนราชนันทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย 2 จำนวน 80 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลองจำนวน 40 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ และแผนการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 10 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบทดสอบความสามารถในการประเมินหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และแบบทดสอบความสามารถในการคิดสังเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบค่า (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1.นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มีความสามารถ ในการประเมินหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลังเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2.นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มีความสามารถ ในการคิดสังเคราะห์หลังเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3.นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มีความสามารถ ในการประเมินหลักฐานทางประวัติศาสตร์และการคิดสังเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 | en_US |
dc.description.abstractalternative | The purpose of this research was to compare the historical evidence evaluation and synthesis thinking abilities of tenth grade students who learned though the historical method and the conventionalmethod. The samples were two groups of Ratchanantajarn Samsenwittalai II School: an experimental group composed of 40 students and a control group composed of 40 students. The instruments for gathering data were two sets of the daily lesson plans: daily lesson plans based on thehistorical method and daily lesson plans based on the conventional method. The data were collected by the historical evidence evaluation test and thesynthesis thinking abilities test. The data were analyzed by frequencies, percentage, standard deviation (S.D.) and t-test. The results of this research were as follows: 1. The post-test mean scores in the historical evidence evaluation test of the experimental group were significantly higher than the pre-test mean scores of the control groupat .05 level. 2. The post-test mean scores in the synthesis thinking abilities test of the experimental group were significantly higher the thanpre-test mean scores of the control group at .05 level. 3. The post-test mean scores in the historical evidence evaluationtest andthe synthesis thinking abilitiestest of the experimental group were significantly higher than the pre-test mean scores at .05 level. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.1745 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ประวัติศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) | en_US |
dc.subject | ประวัติศาสตร์ -- กิจกรรมการเรียนการสอน | en_US |
dc.subject | สังคมศึกษา -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) | en_US |
dc.subject | History -- Study and teaching (Secondary) | en_US |
dc.subject | History -- Activity programs in education | en_US |
dc.subject | Social sciences -- Study and teaching (Secondary) | en_US |
dc.title | ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อ ความสามารถในการประเมินหลักฐานทางประวัติศาสตร์และความสามารถในการคิดสังเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 | en_US |
dc.title.alternative | Effects of learning management using historical method on historical evidence evaluation and synthesis thinking abilities of tenth grade students | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | การสอนสังคมศึกษา | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | ไม่มีข้อมูล | - |
dc.identifier.DOI | 10.14457/CU.the.2013.1745 | - |
Appears in Collections: | Edu - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
prangreuthai_ja.pdf | 1.96 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.