Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52782
Title: | การกักเก็บเมนทอลในแป้งข้าวเจ้าโดยการอบแห้งแบบพ่นฝอย |
Other Titles: | Encapsulation of menthol in rice starch by spray drying |
Authors: | พิชญ์วิภา พรหมมาศ |
Advisors: | อภินันท์ สุทธิธารธวัช อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์ |
Advisor's Email: | Apinan.S@Chula.ac.th uracha@nanotec.or.th |
Subjects: | แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเจ้า -- การอบแห้ง เมนทอล การอบแห้งแบบพ่นกระจาย Rice flour Rice flour -- Drying Menthol Spray drying |
Issue Date: | 2556 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การกักเก็บเมนทอลโดยใช้เฉพาะแป้งข้าวเจ้านั้น จะให้ค่าร้อยละปริมาณเมนทอลที่คงเหลือในผงแห้งประมาณ 1.8% ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงศึกษาวิธีการที่จะเพิ่มค่าการกักเก็บ เช่น การหาปริมาณของแข็งในสายป้อนที่เหมาะสม เพื่อให้อนุภาคสามารถเกิดเป็นโครงสร้างที่กักเก็บเมนทอลได้ การเติมสารอิมัลซิไฟเออร์ การเติมสารช่วยเกิดชั้นฟิล์ม รวมถึงปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการระเหยของน้ำ เช่น อุณหภูมิอากาศขาเข้า ความเร็วรอบของหัวฉีดแบบจากหมุน และความเร็วในการป้อนสารเข้าเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย อย่างไรก็ตามจากการเพิ่มค่าการกักเก็บด้วยวิธีที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ร้อยละปริมาณเมนทอลที่คงเหลือในผงแห้งมีค่าสูงถึง 73.7% จากนั้นนำแป้งเย็นที่ผ่านการกักเก็บนี้มาเปรียบเทียบคุณสมบัติกับแป้งเย็นที่มีขายตามท้องตลาด ที่อุณหภูมิ 35 37 และ 40 องศาเซลเซียสและความชื้นสัมพัทธ์ 80% ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิของร่างกาย จากการทดลองนั้นพบว่าแป้งเย็นที่ผ่านการกักเก็บเมื่อผ่านไป 8 ชั่วโมง จะยังมีปริมาณเมนทอลที่คงเหลือในผงแห้งมากถึง 90% นั่นหมายถึงเมนทอลจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้เป็นระยะเวลานานขึ้น เมื่อเทียบกับแป้งเย็นที่มีขายตามท้องตลาดที่มีปริมาณเมนทอลคงเหลือเพียง 70% 60% และ 40% ที่อุณหภูมิ 35 37 และ 40 องศาเซลเซียส ตามลำดับ อย่างไรก็ตามการนำแป้งเย็นที่ผ่านการกักเก็บไปใช้งานจริงนั้น มีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับแป้งเย็นที่มีขายตามท้องตลาด ดังนั้นแนวทางหนึ่งคือการนำแป้งเย็นที่ผ่านการกักเก็บไปผสมกับทัลคัม เพื่อลดต้นทุนโดยสามารถคำนวณอัตราส่วนของการผสมจากค่าคงที่การปลดปล่อยเมนทอล ซึ่งพบว่าต้องใช้แป้งที่ผ่านการกักเก็บผสมกับทัลคัมในอัตราส่วนโดยมวล 1: 0.4 และ 1:1 เมื่อใช้แป้งข้าวเจ้าที่ไม่ผ่านการดัดแปลงและแป้งข้าวเจ้าที่ผ่านดัดแปลงมากักเก็บเมนทอลตามลำดับ นอกจากนี้ยังสามารถคำนวณระยะเวลาการออกฤทธิ์เย็นของแป้ง ซึ่งพบว่าแป้งข้าวเจ้าที่ไม่ผ่านการดัดแปลงและแป้งข้าวเจ้าที่ผ่านดัดแปลงจะออกฤทธิ์เย็นยาวนานถึง 125 ชั่วโมงและ 100 ชั่วโมงตามลำดับ ขณะที่แป้งเย็นที่มีขายตามท้องตลาดออกฤทธิ์เย็นเพียงแค่ 13.5 ชั่วโมง |
Other Abstract: | Encapsulation of menthol by using only rice flour resulted in low retention at 1.8%. To obtain higher retention an addition of solid content, emulsifier, film forming material, an increase in drying rate from spay drying parameters such as inlet temperature, feed flow rate and atomizer speed could be employed to enhance retention to 73.7%. A comparison on the properties of encapsulated powder and commercial powder were made. Encapsulated powder could retain the menthol 90% at 35°C, 37°C and 40°C. On the other hand, the commercial powder could retain the menthol only 70%, 60% and 40% at 35°C, 37°C and 40°C, respectively. The results showed that the encapsulated powder could slowly release menthol from the particle, suggesting its long lasting efficiency and cooling time. The encapsulated powder could be mixed with talcum to reduce operative cost. The mixing formula and the cooling time could be calculated from rate constant. The results found that mass ratio between encapsulated powder and talcum were 1:0.4 and 1:1 when using rice flour and modified starch. The cooling time of these particles were 125 hours and 100 hours, while, the cooling time of commercial powder was 13.5 hours. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556 |
Degree Name: | วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | วิศวกรรมเคมี |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52782 |
URI: | http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.1811 |
metadata.dc.identifier.DOI: | 10.14457/CU.the.2013.1811 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Eng - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
pitchvipa_pr.pdf | 4.39 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.