Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/55148
Title: ผลของแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและมโนทัศน์ฟิสิกส์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
Other Titles: EFFECTS OF CONCEPTUAL PROBLEM SOLVING APPROACH ON PROBLEM SOLVING ABILITY AND PHYSICS CONCEPTS OF UPPER SECONDARY SCHOOL STUDENTS
Authors: พัณนิดา มิ่งมิตร
Advisors: สายรุ้ง ซาวสุภา
วรากร เฮ้งปัญญา
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์
Advisor's Email: Sairoong.S@chula.ac.th,Sairoong.S@chula.ac.th
ไม่มีข้อมูล
Issue Date: 2559
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์กับนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยวิธีการสอนแบบทั่วไป 3) ศึกษามโนทัศน์ฟิสิกส์หลังเรียนของนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์ และ 4) เปรียบเทียบมโนทัศน์ฟิสิกส์ของนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์กับนักเรียนกลุ่มที่เรียนฟิสิกส์ด้วยวิธีการสอนแบบทั่วไป กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษแห่งหนึ่ง เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 101 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่เรียนฟิสิกส์ด้วยแนวทางการแก้ปัญหาเชิงมโนทัศน์ 49 คน และกลุ่มควบคุมที่เรียนฟิสิกส์ด้วยวิธีการสอนแบบทั่วไป 52 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาฟิสิกส์ที่มีค่าความเที่ยง 0.877 และ 2) แบบวัดมโนทัศน์ฟิสิกส์ที่มีค่าความเที่ยง 0.779 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนกลุ่มทดลองมีค่าเท่ากับ 62.44 ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้คือร้อยละ 60 2) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้ปัญหาฟิสิกส์หลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยมโนทัศน์ฟิสิกส์ของนักเรียนกลุ่มทดลองมีค่าเท่ากับ 70.12 ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้คือร้อยละ 70 4) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยมโนทัศน์ฟิสิกส์หลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
Other Abstract: This study was a quasi-experimental research aimed to 1) study ability in problem solving of the experimental group learned through instruction using conceptual problem solving approach, 2) compare problem solving ability of students between groups learning by using conceptual problem solving approach and conventional instruction, 3) study physics concepts of the experimental group after learning physics by using conceptual problem solving approach instruction and 4) compare physics concepts between groups learning by using conceptual problem solving approach and conventional instruction. The samples were two classes of Mathayom suksa four of the large-sized school under Office of the Basic Education Commission of Thailand, Bangkok, in the first semester of academic year 2016. One class with 49 students was sampled as the experimental group and another class with 52 students was sampled as the control group. The research instruments were 1) the problem solving ability test with reliability at 0.877 and 2) the physics concepts test with reliability at 0.779. The collected data were analyzed by using arithmetic mean, mean of percentage, standard deviation. The hypothesise were tested by using t-test. The research findings were summarized as follows: 1) Percent of problem solving ability mean score of the experimental group was 62.44 higher than the criterion score set at 60 percent. 2) The experimental group’s mean scores of posttest in problem solving ability were higher than the control group’s posttest scores at .05 level of significance. 3) Percent of physics concepts mean score of the experimental group was 70.12 higher than the criterion score set at 70 percent. 4) The experimental group’s mean scores of posttest in physics concepts were higher than the control group’s posttest scores at .05 level of significance.
Description: วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2559
Degree Name: ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: การศึกษาวิทยาศาสตร์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/55148
URI: http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2016.269
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.THE.2016.269
Type: Thesis
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5783460727.pdf3.74 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.