Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61079
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ทัชชมัย ทองอุไร | - |
dc.contributor.author | ยศวดี บุญยะกาพิมพ์ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2018-12-17T06:47:24Z | - |
dc.date.available | 2018-12-17T06:47:24Z | - |
dc.date.issued | 2560 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61079 | - |
dc.description | เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 | en_US |
dc.description.abstract | ตามกฎหมาย สรรพากรปัจจุบันพิจารณาว่าผู้มีเงินได้จากสัญญาขายฝากและสัญญาซื้อขายเสร็จ เด็ดขาดเสียภาษีในรูปแบบเดียวกันคือเสียภาษีเงินได้จากการขายตามมาตรา 40(8) เนื่องจากทั้งสองสัญญาดังกล่าวมีรูปแบบทางกฎหมายเป็นสัญญาซื้อขาย ผู้ขายฝากจึงมีหน้าที่ที่ต้องเสียภาษีเงินได้จากการขายตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากรเช่นเดียวกับผู้ขายในสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด และ ณ วันที่ผู้ขายฝากนำเงินสินไถ่มาให้ผู้ซื้อฝากเพื่อเป็นการไถ่ทรัพย์คืน ผู้ซื้อฝากก็มีภาระภาษีเงินได้จากการขายตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากรเช่นกัน เนื่องจากเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในตัวทรัพย์คืนให้แก่ผู้ขายฝากถือเป็นการขาย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสัญญาขายฝาก จะเห็นได้ว่าคู่สัญญาทำสัญญาขายฝากเพื่อมุ่งประโยชน์ทางการให้สินเชื่อ ไม่ได้มุ่งไปที่การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังเช่นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด การเก็บภาษีจากผู้มีเงินได้ตามสัญญาขายฝากในรูปแบบเดียวกับผู้มีเงินได้จากสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดจึงไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของสัญญา ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี ผู้มีเงินได้จากสัญญาขายฝากและสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดไม่ควรเสียภาษีในรูปแบบเดียวกันจากปัญหาการจัดเก็บภาษีจากผู้มีเงินได้ตามสัญญาขายฝากในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์อันแท้จริงของสัญญา ส่งผลให้ภาษีซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมกลับเป็นสิ่งที่ ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณากำหนดวิธีการจัดเก็บภาษีเงินได้จากผู้มีเงินได้ตามสัญญาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระที่แท้จริงของธุรกรรมที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาถึงประโยชน์เชิงเศรษฐกิจของสินทรัพย์และความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญของความเป็นเจ้าของ รวมถึงอำนาจการควบคุมสินทรัพย์เป็นสำคัญ มิได้คำนึงถึงรูปแบบทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว จะทำให้การจัดเก็บภาษีสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการทำสัญญามากขึ้น หากวิธีการจัดเก็บภาษีเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงแล้ว จะส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก่อให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันแก่คนในสังคมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ประชาชนก็จะมีทัศนคติที่ดีต่อการเสียภาษี และเสียภาษีด้วยความสมัครใจ รัฐบาลจะได้มีเงินคงคลังเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นได้สืบไป | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.55 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ภาษีเงินได้ | en_US |
dc.subject | การชำระภาษี | en_US |
dc.title | ความไม่เหมาะสมของการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับสัญญาขายฝากศึกษาเปรียบเทียบกับแม่บทการบัญชีและมาตรฐานการบัญชี | en_US |
dc.type | Independent Study | en_US |
dc.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | กฎหมายเศรษฐกิจ | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | Tashmai.R@chula.ac.th | - |
dc.subject.keyword | สัญญาขายฝาก | en_US |
dc.subject.keyword | สัญญาซื้อขาย | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.58837/CHULA.IS.2017.55 | - |
Appears in Collections: | Law - Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
598 62340 34.pdf | 1.32 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.