Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61084
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล | - |
dc.contributor.author | วทันยา สังขรัตน์ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2018-12-18T07:59:46Z | - |
dc.date.available | 2018-12-18T07:59:46Z | - |
dc.date.issued | 2560 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61084 | - |
dc.description | เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 | en_US |
dc.description.abstract | วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศไทย อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมี อัตราการปิดตัวลงในปี 2560 ที่ผ่านมาสูง อีกทั้งยังมีอัตราการเป็นหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงนำมาสู่ข้อสังเกตที่ว่าการนโยบายการสนับสนุนของรัฐที่มีต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความสามารถในการทำรายได้ที่ค่อนข้างจำกัดอีกทั้งค่าใช้จ่ายในช่วงตั้งต้นกิจการค่อนข้างสูง นอกจากนี้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยังต้องแบกรับภาระภาษีทุกประเภทเทียบเท่าวิสาหกิจโรงงานทั่วไป ในขณะที่มาตรการในการผ่อนผันภาษีสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีแค่ภาษีเงินได้เท่านั้น จึงเป็นเหตุให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ไม่สามารถทำกำไรได้มากเพียงพอต่อภาระภาษีที่ต้องแบกรับนั้น จึงต้องปิดตัวไปเมื่อศึกษาหลักการภาษีอากรที่ดี พบว่าควรมีความเป็นธรรม และควรก่อให้เกิดรายได้ อย่างไรก็ตาม การที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมถูกเก็บภาษีในจำนวนที่สูงกว่าความสามารถในการทำรายได้นั้น ถือว่าเป็นการไม่เป็นธรรม อีกทั้งรัฐเก็บภาษีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในช่วงต้นมากจนเกินไป ทำให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขาดโอกาสที่จะเติบโต และรัฐก็เสียโอกาสที่จะเก็บภาษีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภายหลังเมื่อสามารถทำรายได้ได้มากขึ้นนอกจากนี้ ภาษีทรัพย์สินที่ไม่ได้เกิดจากฐานเงินได้ แต่เกิดจากฐานการถือครองทรัพย์สินนั้น หากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ถึงแม้จะไม่ได้ทำรายได้ ก็ต้องเสียภาษีทรัพย์สินอยู่ดี ดังนั้น จึงมีความไม่เป็นธรรมต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นอกจากนี้ จากการศึกษามาตรการบรรเทาภาระภาษีทรัพย์สินของประเทศอังกฤษ และ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่ามีมาตรการบรรเทาภาระภาษีทรัพย์สินที่หลากหลาย เช่น การยกเว้น ภาษี การลดอัตราภาษี หรือการกำหนดจำนวนภาษีทรัพย์สินสูงสุดที่ต้องเสียเพื่อให้สัมพันธ์กับรายได้ เป็นต้น ดังนั้น จึงควรนำมาตรการดังกล่าวมาศึกษาและปรับใช้กับมาตรการของประเทศไทย โดย พิจารณาปรับปรุงในร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... ที่ยังไม่ได้ประกาศใช้ เพื่อให้มีขอบอำนาจและการนำไปใช้จริงในทางปฏิบัติได้อย่างชัดเจนและเท่าเทียมกัน และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสมต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อวิสาหกิจโรงงานทั่วไปในประเทศ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่างประเทศอีกด้วย | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.11 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ธุรกิจขนาดย่อม -- ภาษี | en_US |
dc.subject | การจัดเก็บภาษี | en_US |
dc.title | มาตรการทางภาษีทรัพย์สินเพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | en_US |
dc.type | Independent Study | en_US |
dc.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | กฎหมายเศรษฐกิจ | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | Supalak.P@Chula.ac.th | - |
dc.subject.keyword | วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | en_US |
dc.subject.keyword | การผ่อนผันภาษี | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.58837/CHULA.IS.2017.11 | - |
Appears in Collections: | Law - Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
598 62436 34.pdf | 1.55 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.