การพัฒนาสารทำเครื่องหมายสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงฐานอินดิโก

Abstract

ในงานวิจัยนี้ได้ทำการสังเคราะห์ (E)-1,1′-ไดปาล์มิโทอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′- ไดโอน และ (E)-1-ปาล์มิโทอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′-ไดโอน ผ่านปฏิกิริยาแอมิเดชันระหว่างอินดิโกกับปาล์มิโทอิลคลอไรด์และสังเคราะห์ (E)-1,1′-ไดออกตะโนอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′-ไดโอน และ (E)-1-ออกตะโนอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′-ไดโอน จากปฏิกิริยาแอมิเดชันระหว่างอินดิโกกับออกตะโนอิลคลอไรด์ โดยสารที่สังเคราะห์ได้สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ได้จากเทคนิคโปรตอนและคาร์บอน-13 นิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์สเปกโทรสโกปี แมสสเปกโตรเมทรี และอัลตราไวโอเลต-วิสิเบิลสเปกโทรสโกปี สารประกอบเหล่านี้สามารถละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์หลายชนิด เช่น ไดคลอโรมีเทน เฮกเซน โทลูอีน ในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และในน้ำมันดีเซล สารประกอบที่สังเคราะห์ได้สามารถตรวจวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณได้ด้วยเทคนิคอัลตราไวโอเลต-วิสิเบิลสเปกโทรสโกปี โดยพบว่า (E)-1-ปาล์มิโทอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′- ไดโอน มีค่าสัมประสิทธิ์การดูดกลืนแสงสูงที่สุดในบรรดาสารประกอบทั้งสี่ชนิด จึงนำมาศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเป็นสารทำเครื่องหมายในน้ำมันดีเซล ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่าที่ความเข้มข้น 5 ppm การเติมสารประกอบชนิดนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสีของน้ำมันดีเซล และไม่ส่งผลต่อสมบัติทางกายภาพของน้ำมันดีเซลตามมาตรฐาน American Society for Testing and Materials (ASTM) นอกจากนี้ (E)-1-ปาล์มิโทอิล-[2,2′-ไบอินโดลินิลลิดีน]-3,3′-ไดโอนยังมีเสถียรภาพในน้ำมันดีเซลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน