Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/65202
Title: ประสิทธิภาพการใช้ยาน้ำไอทราโคนาโซล เพื่อลดอัตราการใช้ยาแอมโฟเทอริซิน ในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดมัยอิลอยด์
Other Titles: Efficacy of itraconazole solution as antifungal prophylaxis in the reduction of amphotericin use in acute myeloid leukemia : a randomized double blind, placebo-controlled trial
Authors: พิชัย คณิตจรัสกุล
Advisors: ธานินทร์ อินทรกำธรชัย
ชุษณา สวนกระต่าย
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์
Advisor's Email: Tanin.I@Chula.ac.th
Chusana.S@Chula.ac.th
Subjects: มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์
ปฏิชีวนะ
ไอทราโคนาโซล
Acute myeloid leukemia
Itraconazole
Itraconazole
Issue Date: 2544
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพการใช้ยานํ้าไอทราโคนาโซลเพื่อลดอัตราการใช้ยาแอมโฟเทอริซินในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดมัยอิลอยด์ วิธีดำเนินการ ทำการศึกษาเซิงทดลอง ใช้ยานํ้าไอทราโคนาโซลเปรียบเทียบกับยาหลอกในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดมัยอิลอยด์ที่ได้รับเคมีบำบัดสูตรมาตรฐานจำนวน 28 คน รวม 48 ครั้ง มีผู้ป่วย 3 คนที่ไม่ได้รับเคมีบำบัดสูตรมาตรฐาน ต่อมาสุ่มแบ่งผู้ป่วยแต่ละครั้งที่รับเคมีบำบัดให้รับยานํ้าไอทราโคนาโซล หรือยาหลอก ติดตามศึกษาเปรียบเทียบการใช้ยาแอมโฟเทอริซิน อัตราการติดเชื้อรา และอัตราการตายในผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม ผลการศึกษา พบว่ามีการใช้ยาแอมโฟเทอริซินลดลงในกลุ่มยานํ้าไอทราโคนาโซลเทียบกับกลุ่มยาหลอก ร้อยละ 36.4 และ 56.5 ตามลำดับ แต่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P=0,29) และพบว่ามีอุบัติการณ์การติดเชื้อราแบบลุกลามลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจาก ร้อยละ 30.4 ในกลุ่มยาหลอก เป็น ร้อยละ 4.5ในกลุ่มยานํ้าไอทราโคนาโซล สรุป การใช้ยานํ้าไอทราโคนาโซลเทียบกับยาหลอกมีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างชัดเจนในการลดการติดเชื้อรา แต่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในการลดการใช้ยาแอมโฟเทอริซิน
Other Abstract: Objectives: To evaluate the efficacy of itraconazole oral solution in reduction of amphotericin B use in acute myeloid leukemia patients receiving standard regimen of chemotherapy. Methods: A randomized double blind, placebo-controlled trial was conducted. Forty-eight episodes in 28 patients were randomly assigned to receive either itraconazole (24 episodes) or placebo (24 episodes). Both groups were evaluated, regarding to the utilization of amphotericin B and the incidence of fungal infections. Results: Three episodes were excluded due to the modification of standard chemotherapy regimen. Of 45 evaluated episodes, less empirical amphotericin B was used in those receiving itraconazole [8 (36.4%) vs. 13 (56.5%) episodes, p=0.29]. One episode (4.5%) in the itraconazole group developed systemic fungal infection, compared to 7 episodes (30.4%) in the placebo group (p< 0.05). Conclusions: Itraconazole solution is effective in the prevention of invasive fungal infections in acute myeloid leukemia patients receiving standard chemotherapy regimen.
Description: วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: อายุรศาสตร์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/65202
ISBN: 9741700229
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Phichai_ka_front.pdfหน้าปก บทคัดย่อ และสารบัญ333.36 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch1.pdfบทที่ 1169.71 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch2.pdfบทที่ 2742.82 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch3.pdfบทที่ 3163.19 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch4.pdfบทที่ 4769.67 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch5.pdfบทที่ 5348.65 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_ch6.pdfบทที่ 691.01 kBAdobe PDFView/Open
Phichai_ka_back.pdfรายการอ้างอิง และภาคผนวก644.87 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.