Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67486
Title: ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1C ของพระภิกษุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2
Other Titles: The Effect of empowerment program on HbA1C level of monks with type 2 diabetes mellitus
Authors: จงรัก รมย์นุกูล
Advisors: รัตน์ศิริ ทาโต
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์
Advisor's Email: Ratsiri99@gmail.com
Subjects: เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน
ผู้ป่วยเบาหวาน
น้ำตาลในเลือด
Non-insulin-dependent diabetes
Diabetics
Blood sugar
Issue Date: 2554
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเปรียบเทียบได้กับการวิจัยแบบทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1Cของพระภิกษุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 โดยใช้แนวคิดการสร้างเสริมพลังอำนาจตามแหล่งพลังอำนาจทั้ง 7 ด้าน ของ Miller (2000) ตามกระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจของ Anderson และคณะ (1991) กลุ่มตัวอย่างคือ พระภิกษุสงฆ์ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก โดยจับคู่ให้มีคุณสมบัติคล้ายกันในเรื่อง อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาเจ็บป่วย และระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1C สุ่มกลุ่มตัวอย่างที่จับคู่เข้าเป็นกลุ่มควบคุมหรือกลุ่มทดลองโดยการจับฉลาก แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 20 รูป รวมทั้งหมด 40 รูป กลุ่มควบคุม ได้รับการดูแลตามปกติ กลุ่มทดลอง ได้รับโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ จำนวน 4 ครั้งๆ ละ 1-3.5 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ ที่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) การสำรวจปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตามแหล่งพลังอำนาจ 2) การวิเคราะห์ปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตามแหล่งพลังอำนาจ 3 ) การสร้างพลังในการแก้ไขปัญหาและตั้งเป้าหมายพร้อมแนวทางในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 4 ) การเสริมสร้างแหล่ง พลังอำนาจในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และ 5) การเสริมสร้างความมั่นใจและคงไว้ซึ่งพลังอำนาจ โดยมีแผนการสอน ภาพสไลด์ และ คู่มือ “อยู่กับเบาหวานอย่างไม่เป็นทุกข์” ที่ได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิเป็นสื่อในการดำเนินกิจกรรม เครื่องมือกำกับการทดลอง คือ แบบประเมินแหล่งพลังอำนาจ ซึ่งมีค่าความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ .80 ค่าความเที่ยง .84 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบบันทึกระดับน้ำตาลในเลือด โดยตรวจระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1C ตรวจสอบความเที่ยงด้วยการวัดซ้ำ (Test- retest) พบว่ามีความสัมพันธ์กัน r = .99 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงบรรยาย และการทดสอบสถิติทีผลการวิจัยที่สำคัญสรุปได้ดังนี้ 1.ค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1C ของพระภิกษุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หลัง ได้รับโปรแกรมเสริมสร้างพลังอำนาจ ต่ำกว่าก่อนได้รับโปรแกรมเสริมสร้างพลังอำนาจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) 2.ค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดชนิด HbA1C ของพระภิกษุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มที่ได้รับโปรแกรมเสริมสร้างพลังอำนาจ ต่ำกว่ากลุ่มได้รับความรู้ตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)
Other Abstract: The purpose of this comparative experimental research was to examine the effect of empowerment program on HbA1C level of Buddhist monks with type 2 diabetes mellitus. The empowerment of power resource model (Miller, 2000) was applied as a theoretical framework using the empowerment process for diabetes education developed by Anderson et al (1991). The study sample were 40 Buddhist monks with type 2 diabetes mellitus who attended diabetic mellitus clinic, Priest hospital. A convenience sampling was used to recruit the subject. They were matched by age, length of illness, education level, and HbA1C level. The control group received usual care while the experiment group received the empowerment program. The intervention, developed by a researcher, consisted of 5 steps: 1) exploring problem issues in blood sugar control, 2) analyzing the problems in blood sugar control, 3) empowering to solve the problem, goals setting and developing guideline for blood sugar control, 4) empowering according to the power resources for blood sugar control, and 5) building confidence to maintain the power resources for blood sugar control. The intervention was reviewed for content validity by a panel of 5 experts. The power resources of empowerment were measured to monitor the intervention. Its content validity index was at .80, and Cronbach, s alpha coefficient was at .84. A test-retest was used to examine the stability of HbA1C level with a correlation coefficient (r) of .99. Data were analyzed using descriptive and t-test statistics. Major findings of this study were as follow: 1. HbA1C level of Buddhist monks with type 2 diabetes mellitus in the experimental group after receiving the empowerment program was significantly lower than before receiving the empowerment program (p<.05). 2. HbA1C level of Buddhist monks with type 2 diabetes mellitus in the experimental group after receiving the empowerment program was significantly lower than those of the control group (p<.05).
Description: วิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554
Degree Name: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: พยาบาลศาสตร์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67486
Type: Thesis
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Jongrak_ro_front_p.pdfหน้าปก บทคัดย่อ และสารบัญ885.37 kBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_ch1_p.pdfบทที่ 11.16 MBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_ch2_p.pdfบทที่ 22.3 MBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_ch3_p.pdfบทที่ 31.51 MBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_ch4_p.pdfบทที่ 4835.7 kBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_ch5_p.pdfบทที่ 51.4 MBAdobe PDFView/Open
Jongrak_ro_back_p.pdfบรรณานุกรม และภาคผนวก2.16 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.