กฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใชรถยนต์ : ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างต่างประเทศและประเทศไทย

Abstract

อุบัติเหตุจากการจราจรทางบกของประเทศไทยอยู่ในลำดับสูงโดยรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2542 มีจำนวนอุบัติเหตุทั้งหมด 67,786 ราย มีผู้เสียชีวิต 10,240 ราย มี ผู้บาดเจ็บสาหัส 12,054 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 35,709 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,345,965,811 บาท จากการศึกษาค้นคว้าพบว่าสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกเนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ยังไม่เหมาะลมและครอบคลุมถึงพฤติการณ์ของ ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ทางคนอื่นๆ เช่นไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายห้ามผู้ขับขี่รถยนต์ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่ขับขี่รถยนต์ เครื่องหมายจราจรยังไม่เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั่วทั้งประเทศการกำหนดอัตราความเร็วของรถยนต์ยังไม่เหมาะสม ไม่มีกฎหมายกำหนดมาตรฐานของยางรถยนต์ในส่วนของการคุ้มครองผู้โดยสารรถยนต์ไม่มีการแยกผู้โดยสารที่เป็นเด็กออกจากผู้ใหญ่ เพื่อคุ้มครองผู้โดยสารที่เป็นเด็กไว้โดยเฉพาะ ไม่มีบทกฎหมายห้ามผู้ขับขี่ดื่มสุราในขณะที่ขับขี่รถยนต์ อีกทั้งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุขั้นตํ่าที่อนุญาตให้ครอบครองและดื่มสุราได้ ตลอดจนยังไม่มีมาตรการลงโทษกับผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไว้ในความครอบครองขณะที่ขันขี่รถยนต์ ประเทศไทยยังไม่มีการบัญญัติกฎหมายคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ในลักษณะดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จำนวนสถิติอุบัติเหตุจราจรอยู่ในลำดับสูง สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติโดยส่วนรวม เป็นการบั่นทอนความเจริญของประเทศชาติ หากมีการบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถยนต์ดังกล่าว จะทำให้อุบัติเหตุจากการจราจรทางบกลดลงได้