Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/71906
Title: | ปฏิกิริยาระหว่างสารดูดซับที่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ กับซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในฟลูแก๊ส |
Other Titles: | Reactions between calcium-based sorbents and sulphur dioxide in flue gas |
Authors: | วัชรศักดิ์ ฤกษ์ขุมทรัพย์ |
Advisors: | กัญจนา บุณยเกียรติ พรพจน์ เปี่ยมมสมบูรณ์ |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Subjects: | สารดูดซับ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แคลเซียม |
Issue Date: | 2538 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาความสามารกในการขจัดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในฟลูแก๊สที่จำลองขึ้น ของสารดูดซับที่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ 4 ชนิด และศึกษาตัวแปรที่มีผลต่อการขจัดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ในการทดลองใช้สารดูดซับที่มีองค์ประกอบเป็นแคลเซียมออกไซด์ ไฮดรอกไซด์และคาร์บอเนตแตกต่างกัน 3 ชนิดเทียบกับแคลเซียมออกไซด์บริสุทธิ์ทดลองในหลอดแก้วควอร์ตซ์ อุณหภูมิ 750, 800, 850 และ 900 องศาเซลเซียส ความเข้มข้นของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในฟลูแก๊ส 1000, 2000 และ 3000 ส่วนในล้านส่วนและเวลาในการทำปฏิกิริยาเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความสามารถของสารดูดซับและจลนพลศาสตร์เบื้องต้นของปฏิกิริยาระหว่างซัลเฟอร์ไดออกไซด์กับสารดูดซับโดยหาค่าพลังงานกระตุ้น (activated energy) และอัตราเร็วเริ่มต้นของปฏิกิริยา (initial reaction rate) ผลการทดลองพบว่าเมื่อเพิ่มอุณหภูมิความสามารถในการขจัดของสารดูดซับทุกชนิดเพิ่มขึ้นยกเว้นหินปูนโดโลไมต์ที่ความสามารถลดลงที่อุณหภูมิสูงกว่า 800 องศาเซลเซียสและเมื่อเพิ่มความเข้มข้นของ SO2 ในฟลูแก๊ส การขจัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ที่ 2000 และ 3000 ส่วนในล้านส่วน ความสามารถไม่แตกต่างกันมากนัก โดยในภาพรวมพบว่าที่อุณหภูมิ 750 และ 800 องศาเซลเซียสหินปูนโดโลไมด์มีความสามารถสูงที่สุด (0.8025 mole SO2/mole Ca; ที่ 3000 ส่วนในล้านส่วน) ส่วนที่อุณหภูมิ 850 และ900 องศาเซลเซียสหินปูนมีความสามารถสูงที่สุด (0.4985 mole SO2/mole Ca; ที่ 3000 ส่วนในล้านส่วน) ค่าพลังงานกระตุ้นของสารดูดซับ lime (lab. grade), lime (comm. grade) และ limestone มีค่าเป็น 16.83, 16.67 และ 25.24 กิโลจูลต่อโมลตามลำดับ และอันดับของปฏิกิริยาเริ่มต้นของสารดูดซับทั้ง 4 ชนิดมีค่าเท่ากันคือ 0.5 ความแตกต่างของสารดูดซับโดโลไมต์จากสารดูดซับตัวอื่น อาจเกิดเนื่องจาก MgS04 ที่เกิดขึ้นไม่เสถียรที่อุณหภูมิสูงกว่า 800 องศาเซลเซียส นอกจากนั้น Fe2O3 ที่มีในองค์ประกอบสารดูดซับอาจมีส่วนเสริมการเร่งปฏิกิริยาด้วย |
Other Abstract: | In this study, calcium-based sorbents were used as sorbents for SO2 in simulated flue gas employing four different types of sorbents at various conditions. Calcium oxide, calcium hydroxide and carbonate rocks were used as sorbents in a quartz tube reactor. The studied variables were; temperature, 750, 800, 850 and 900 degree Celsius; SO2 concentration in flue gas, 1000, 2000 and 3000 ppm; and reaction time. The results were then compared and the basic kinetic study of reactions between sorbents and SO2 were carried out in terms of initial reaction rate and activated energy. The result is as follows: SO2 sorption increased with temperature for all sorbents except for dolomite which showed a marked decrease at and above 800 degree Celsius. The increasing SO2 concentration in flue gas also resulted in increasing SO2 sorption but at 2000 and 3000 ppm, SO2 absorbed was nearly the same. In overall it was found that at 750 and 800 degree Celsius, the reactivity of dolomite sorbent was the highest (0.8025 mole SO2/mole Ca;at 3000 ppm) , while at 850 and 900 degree Celsius, the reactivity of limestone was the highest (0.4985 mole SO2/mole Ca;at 3000 ppm). Activated energies of sorbents; lime (lab. grade), lime (comm. grade), and limestone were 16.83, 16.67 and 25.24 kJ/mole respectively, but that of dolomite showed negative value. The different sorption behaviour of dolomite may result from MgSO4 product which is not stable at temperature higher than 800 degree Celsius. Another contributing factor is possibly the presence Fe2O3 in sorbents which has been reported to assist in the SO2 sorption of calcium-based sorbents. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | เคมีเทคนิค |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/71906 |
ISBN: | 9746313681 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Watcharasak_le_front_p.pdf | 1.03 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_ch1_p.pdf | 662.86 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_ch2_p.pdf | 1.53 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_ch3_p.pdf | 841.23 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_ch4_p.pdf | 2.06 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_ch5_p.pdf | 726.67 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Watcharasak_le_back_p.pdf | 1.35 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.