การใช้รังสีแกมมาเหนี่ยวนำให้เกิดครอสลิงก์ในเมทิล เมทาคริเลต กรดอะคริลิก และโพลีไวนิลคลอไรด์ ร่วมกับสารไวปฏิกิริยาบางตัว

Abstract

ได้ศึกษาการเกิดครอสลิงก์ในเมทิลเมทาคริเลต (MMA) กรดอะคริลิกและโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) ร่วมกับสารไวปฏิกิริยา 2-เอทิลเฮกซิลอะคริเลต (2EHA) คาร์บอนเตตราคลอไรด์ (CCl₄) และ นอร์มอลบิวทิลอะคริเลต (n-BA) โดยใช้รังสีแกมมาและทำการทดสอบคุณสมบัติทางฟิสิกส์ ได้แก่ความต้านแรงดึง การยืดตัว ความแข็ง ปริมาณเจลและการบวมตัว จากการทดลองพบว่าอัตราส่วนผสม MMA (9 c.c.) : PVC(l g) และ MMA(9.5 c.c.) : PVC(0.5 g) จะให้ปริมาณเจลสูงสุด 89% และ 87% ตามลำดับ ที่ปริมาณรังสี 25.6 kGy และมีเปอร์เซ็นต์การบวมต่ำสุด ในทำนองเดียวกันที่อัตราส่วนผสมดังกล่าวเมื่อนำสารผสมในอัตราส่วนดังกล่าว ซึ่งไม่มีสารไวปฏิกิริยามาเคลือบผิวไม้จะระเหยค่อนข้างช้าและเกาะติดเป็นแผ่นฟิล์มบนผิวไม้ได้ดีกว่า ในกรณีของ MMA/PVC ที่มีสารไวปฏิกิริยาร่วมด้วยในกลุ่มของกรดอะคริลิก/PVC (ร่วมกับ 2EHA, n-BA และ CCl₄) ได้เลือกใช้อัตราส่วนผสมระหว่างกรดอะคริลิก (10 c.c.) : n-BA(0.1 c.c.) เนื่องจากให้ปริมาณเจล 101% ที่ปริมาณรังสี 6 kGy และเคลือบผิวไม้ได้ดีไม่แยกชั้น ในการทดสอบความต้านแรงดึงของสารผสม MMA(9 c.c.) : PVC(l g) และ MMA(9.5 c.c.) : PVC(0.5 g) ที่ปริมาณรังสี 25.6 kGy ให้ความต้านแรงดึงสูสงสุดคือ 6 kgf/mm² และ 5.7 kgf/mm² ตามลำดับ ส่วนสารผสมกรดอะคริลิก (10 c.c.) : n-BA(0.1 c.c.) ที่ปริมาณรังสี 8.2 kGy จะได้ความต้านแรงดึงสูงสุด 1.7 kgf/mm² การยืดตัวในกลุ่ม MMA(9 c.c.) : PVC (l g) และ MMA (9.5 c.c.) : PVC(0.5 g) มีค่าน้อยกว่า 3% ส่วนกรดอะคริลิก/n-BA มีค่าการยืดตัวเท่ากับศูนย์ ในส่วนของความแข็งพบว่า อัตราส่วนผสมระหว่าง MMA(9 c.c.) : PVC (l g) และ MMA (9.5 c.c.) : PVC(0.5 g) ที่ปริมาณรังสี 25.6 kGy มีค่า 48.9 HRH และ 50.9 HRH ตามลำดับ ในกรณีกรดอะคริลิก (10 c.c.) : n-BA (0.1 c.c.) มีค่าความแข็งสูงสุด 25.7 HRH ที่ปริมาณรังสี 8.2 kGy