Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75086
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | เฉลิม ชัยวัชราภรณ์ | - |
dc.contributor.author | สุขไสว จีระยา | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย | - |
dc.date.accessioned | 2021-08-25T10:30:21Z | - |
dc.date.available | 2021-08-25T10:30:21Z | - |
dc.date.issued | 2531 | - |
dc.identifier.isbn | 9745695823 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75086 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531 | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการออกกำลังกายในที่ระดับสูงต่างกันที่มีต่อสมรรถภาพการจับออกซิเจนสูงสุดและเพื่อเปรียบเทียบผลของการออกกำลังกายในที่ระดับสูงปานกลางกับ การออกกำลังกายในที่ระดับสูงน้อย กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยวิธีจับคู่ (Matched Group) กลุ่มละ 10 คน ทั้งสองกลุ่มเป็นนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนแม่จันทวิทยาคม ทั้งสองกลุ่มทำ การฝึกวิ่งเหยาะรอบสนามโดยให้ความหนักของงานเท่ากับ 70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด ทำการ ฝึก 8 สัปดาห์ ๆ ละ 4 วัน โดยเริ่มจากอาทิตย์แรกวิ่งวันละ 10 นาที แล้วเพิ่มขึ้นอาทิตย์ละ 5 นาที ไป จนครบ 8 อาทิตย์ กลุ่มที่หนึ่งไปทำการฝึกออกกำลังกายที่สนามโรงเรียนสันติคีรีวิทยาคม กลุ่มที่สองฝึกออก กำลังกายที่สนามโรงเรียนแม่จันวิทยาคม ขณะฝึกทำการวัดสมรรถภาพทางกายในด้านความดันโลหิตและ สมรรถภาพการจับออกซิเจนสูงสุดเป็นระยะ ๆ คือหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 2, 4, 6 และเมื่อสิ้นสุดการฝึกใน สัปดาห์ที่ 8 นำผลที่ได้มาวิเคราะห์ตามวิธีสถิติโดยการหาค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความ แปรปรวนแบบ 2 ทาง และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีก (เอ) ผลการวิจัยพบว่า การออกกำลังกายโดยการวิ่งเหยาะเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ทำให้ สมรรถภาพการจับออกซิเจนสูงสุดของทั้งสองกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 การเปรียบเทียบผลของการออกกำลังกายในที่ระดับสูงต่างกัน พบว่า สมรรถภาพการจับออกซิเจน สูงสุดไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ | - |
dc.description.abstractalternative | The purpose of this research was to study the effects of the exercise at different altitude levels on maximal oxygen uptake. The subjects were divided into two groups by matched group, each group consisted of ten males. Both groups were the secondary students school of Maechangvidhayakom School. Both groups were trained by jocking at the 70% of maximum heart rate for eight weeks with four day per week. The first week jocking for ten minute a day and increased five minutes more for every other weeks. The first group was trained at Suntikerevidhayakom School. The second group was trained at Maechangvidhayakom School. The resting blood pressure and the maximum oxygen uptake were taken on the second week, the fourth week, the sixth week and the eighth week, respectively. The results were then statistically analyzed by means, standard deviations, Two-way ANOVA and Tukey (a). The results indicated that : There were significant differences at the .05 level on the jocking exercise which increased the maximum oxygen uptake. The results of the comparison between two groups of exercise program came out with no significant differences at the .05 level on the maximum oxygen uptake. | - |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ออกซิเจนในร่างกาย | en_US |
dc.subject | สมรรถภาพทางกาย -- การทดสอบ | en_US |
dc.subject | Oxygen in the body | en_US |
dc.subject | Physical fitness -- Testing | en_US |
dc.title | การเปรียบเทียบสมรรถภาพการจับออกซิเจนสูงสุด ในการออกกำลังกายในที่ระดับสูงจากระดับน้ำทะเลต่างกัน | en_US |
dc.title.alternative | Comparison of maximal oxygen uptake on exercise at different altitude levels | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | พลศึกษา | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | cchalerma@loxinfo.co.th | - |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Suksawai_je_front_p.pdf | 911.26 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_ch1_p.pdf | 1.03 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_ch2_p.pdf | 1.1 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_ch3_p.pdf | 925.4 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_ch4_p.pdf | 908.33 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_ch5_p.pdf | 935.39 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Suksawai_je_back_p.pdf | 1.66 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.