Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75753
Title: Efficacy and safety of mulberry leaves on glycemic control in patients with obesity and patients with type 2 diabetes
Other Titles: ประสิทธิศักย์และความปลอดภัยของใบหม่อนในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ที่มีภาวะอ้วนและผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
Authors: Thanchanit Thaipitakwong
Advisors: Pornanong Aramwit
Ouppatham Supasyndh
Other author: Chulalongkorn University. Faculty of Pharmaceutical Sciences
Subjects: Mulberry
Blood sugar -- Control
Diabetes -- Treatment
หม่อน
น้ำตาลในเลือด -- การควบคุม
เบาหวาน -- การรักษา
Issue Date: 2020
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: This work was divided into three study phases: the two-phase randomized controlled clinical trials and proteomics study. First, the phase I clinical trial aimed to determine efficacy and safety of mulberry leaves on postprandial glucose following the 50-g sucrose ingestion in healthy nondiabetic adults and to explore the optimal administered dose of 1-deoxynojirimycin (DNJ), the major antihyperglycemic compound of mulberry leaves. The results showed the alleviation of postprandial hyperglycemia by mulberry leaves in a dose-dependent fashion. Adverse effects of mulberry leaves included bloating and flatulence, loose stool, and nausea. In addition, 12 mg of DNJ was considered the optimal dose defined by the clinically effective dose with the minimal side effects. Second, the phase II clinical trial was conducted to determine efficacy and safety of the long-term administration of mulberry leaves on glycemic control in patients with obesity and patients with type 2 diabetes. Daily administration of mulberry leaves containing 12 mg of DNJ thrice daily before meals resulted in the improvement in glycemic control as well as insulin sensitivity in the mulberry leaves-treated group; however, there was no difference between the treatment group and the control. Moreover, mulberry leaves were capable of reducing blood lipids when compared with the control group. Our study did not observe the changes in hepatic and renal function by mulberry leaves administration. Nonetheless, it caused bloating and flatulence, loose stool, and constipation. Last, effects of mulberry leaves on expressions of plasma proteins of persons who enrolled the phase II clinical study were further determined using proteomics analysis. In response to mulberry leaves treatment, the analysis found modulation in expressions of proteins involved in metabolic regulation, extracellular matrix constituents and organization, immunity, and inflammatory response.
Other Abstract: งานวิจัยนี้แบ่งเป็น 3 การศึกษา ประกอบด้วยการศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม 2 ระยะและการศึกษาการแสดงออกของโปรตีนโดยเทคนิคโปรติโอมิกส์ การศึกษาทางคลินิกระยะที่หนึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของใบหม่อนในการลดน้ำตาลในเลือดหลังการรับประทานสารละลายซูโครส 50 กรัมในอาสาสมัครสุขภาพดี และเพื่อประเมินขนาดรับประทานที่เหมาะสมของใบหม่อนโดยกำหนดจากปริมาณของ 1-ดีออกซีโนจิริไมซิน (ดีเอ็นเจ) ซึ่งเป็นสารสำคัญหลักในใบหม่อน ผลการศึกษาพบว่าใบหม่อนสามารถลดภาวะน้ำตาลสูงหลังมื้ออาหารได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมและสัมพันธ์กับขนาดของดีเอ็นเจ อาการข้างเคียงที่พบ ได้แก่ ท้องอืด ถ่ายแหลว และคลื่นไส้ และดีเอ็นเจขนาด 12 มิลลิกรัมเป็นขนาดรับประทานที่เหมาะสมที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้และทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยที่สุด การศึกษาระยะที่สองมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความปลอดภัยในระยะยาวของใบหม่อนในผู้ที่มีภาวะอ้วนและผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ผลการศึกษาพบว่าการรับประทานใบหม่อนที่ประกอบด้วยดีเอ็นเจ 12 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งทุกวันนาน 12 สัปดาห์ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลดีขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเริ่มต้นก่อนรับประทาน และยังพบแนวโน้มที่ดีขึ้นของความไวต่ออินซูลินในกลุ่มทดลองอีกด้วย อย่างไรก็ดีไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ใบหม่อนลดระดับไขมันในเลือดได้ โดยพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่ม การศึกษานี้ไม่พบผลข้างเคียงเกี่ยวกับการทำงานของตับและไต อย่างไรก็ดีพบรายงานอาการท้องอืด ถ่ายเหลว และท้องผูกจากการรับประทานใบหม่อน การศึกษาระยะที่สามเป็นการศึกษาผลของใบหม่อนต่อการแสดงออกของโปรตีนในพลาสมาในกลุ่มที่ได้รับประทานใบหม่อนจากการศึกษาทางคลินิกระยะที่สองด้วยเทคนิคโปรติโอมิกส์ โดยพบว่าการแสดงออกของโปรตีนในกลุ่มเมทาบอลิก เมทริกซ์นอกเซลล์ ระบบภูมิคุ้มกัน และกระบวนการอักเสบเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายหลังการรับประทานใบหม่อน
Description: Thesis (Ph.D.)--Chulalongkorn University, 2020
Degree Name: Doctor of Philosophy
Degree Level: Doctoral Degree
Degree Discipline: Pharmaceutical Care
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75753
URI: http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2020.367
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.THE.2020.367
Type: Thesis
Appears in Collections:Pharm - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5776553333.pdf4.48 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.