Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/77668
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | วิมพัทธ์ ราชประดิษฐ์ | - |
dc.contributor.author | ปลิดา วัฒนจิราพร | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2021-10-29T08:45:35Z | - |
dc.date.available | 2021-10-29T08:45:35Z | - |
dc.date.issued | 2563 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/77668 | - |
dc.description | เอกัตศึกษา (ศศ.ม)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563 | en_US |
dc.description.abstract | เอกัตศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการตรวจสอบและการจัดเก็บภาษีของ เจ้าหน้าที่สรรพากรความหมายและปัญหาที่เกิดขึ้นใน กรณีการประกอบธุรกรรมด้วยเงินสด แล้วนำมาเปรียบเทียบการตรวจสอบและการจัดเก็บภาษีในต่างประเทศ เพื่อให้ทราบถึงข้อดีข้อเสีย ของมาตรการและวิธีการต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบจากการประกอบธุรกรรมด้วยเงินสด นำไปสู่แนวทาง การแก้ไขและวิธีการ มาตรการในการตรวจสอบและการจัดเก็บภาษีกรณีการประกอบธุรกรรมด้วย เงินสด เพื่อให้การตรวจสอบและการจัดเก็บภาษีถูกต้องและครบถ้วน จากการศึกษา พบว่ามาตรการทางกฎหมายรวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการ บริหารความเสี่ยง การรณรงค์เพื่อเป็นการจูงใจ การสนับสนุน ในเรื่องการทำธุรกรรมเป็นเงินสดยังไม่ มีประสิทธิภาพเพียงพอ ประกอบกับหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีของเจ้าพนักงานยัง ขาดประสิทธิภาพเนื่องจากมีการประเมินความเสี่ยงของผู้เสียภาษีหลังจากการยื่นแบบแสดงรายการ รวมทั้งการใช้อำนาจและดุลยพินิจของเจ้าพนักงานในการประเมินภาษี ทำให้ผู้เสียภาษีมีทัศนคติ ที่ไม่ดีกับผู้ตรวจสอบอีกทั้งยังขาดหลักฐานเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ของเจ้าพนักงาน ขาดมาตรการจูงใจและการบังคับใช้ ให้ประชาชนมีการลดการใช้เงินสดในการทำธุรกรรม ในขณะที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์และประเทศสวีเดน มีการนำมาตรการ การบริหารความเสี่ยงมาใช้ก่อนทำการประเมินการตรวจสอบ และมีมาตรการจูงใจและการบังคับ ให้ผู้ประกอบการมีการลดการใช้เงินสดเพื่อจะใช้เป็นฐานข้อมูลในการประเมินความเสี่ยง ตามหลักการบริหารความเสี่ยง ดังนั้น ผู้เขียนจึงเห็นว่าควรมีการศึกษาและนำแนวทางการใช้ มาตรการต่าง ๆ ของประเทศสวีเดนและประเทศสิงคโปร์นำมาปรับปรุงและปรับใช้ในประเทศไทย ที่เป็นการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีในกลุ่มธุรกิจที่รับชำระเป็นเงินสด เพื่อให้แก้ไขปัญหาการเลี่ยง การตรวจสอบภาษีจากการรับช าระและบริการเป็นเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2020.135 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | การจัดเก็บภาษี | en_US |
dc.subject | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา | en_US |
dc.title | ปัญหาการตรวจสอบการจัดเก็บภาษีกรณีการประกอบธุรกรรมด้วยเงินสด | en_US |
dc.type | Independent Study | en_US |
dc.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | กฎหมายเศรษฐกิจ | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | wimpat.r@chula.ac.th | - |
dc.subject.keyword | ธุรกรรมเงินสด | en_US |
dc.subject.keyword | การตรวจสอบภาษี | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.58837/CHULA.IS.2020.135 | - |
Appears in Collections: | Law - Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
6280051034.pdf | 2.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.