Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/77832
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | กอบชัย ภัทรกุลวณิชย์ | - |
dc.contributor.author | อภิรดี ประเวศจรรยา | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2021-11-22T09:41:35Z | - |
dc.date.available | 2021-11-22T09:41:35Z | - |
dc.date.issued | 2552 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/77832 | - |
dc.description.abstract | กระบวนการเติมสิ่งมีชีวิตเพื่อการบำบัดสารพิษในส่วนสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่อง จาก อัตราการรอดชีวิตที่น้อยของจุลชีพที่เติทลงไป และการสูญเสียความสามารถในการย่อยสลาย ดังนั้นใน งานวิจัยนี้มุ่งที่จะตรึงกลุ่มแบคทีเรีย RRM-V3 โดยใช้อัลจิเนตเพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสียที่ปนเปื้อนไพรีนและฟีแนนทรีน ภาวะที่เหมาะสมสำหรับการตรึงในอัลจิเนตคือ สารละลายโซเดียมอัลจิเนต 4% น้ำหนักต่อปริมาตร แคลเซียมคลอไรด์ความเข้มข้น 0.1 โมลาร์ และจำนวนเซลล์แบคทีเรียเริ่มต้นประมาณ 8 log CFU/มิลลิลิตร RRM-V3 ที่ตรึงในอัลจิเนตย่อยสลายไพรีนและฟีแนนทรีนที่ความเข้มข้น 0.05, 0.5 และ 1 กรัม/ลิตร ด้วยอัตราที่ไม่แตกต่างจากเซลล์ RRM-V3 อิสระ เซลล์ RRM-V3 ที่ตรึงมีชีวิตรอดหลังการเก็บที่ 4℃ ใน 0.85% โซเดียมคลอไรด์ เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนและยังสามารถย่อยสลายไพรีนและฟีแนนทรีนได้ เซลล์ ตรึงสามารถใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 4 รอบ ในขณะที่ความสามารถในการย่อยสลาย PAHs ทั้งสองชนิดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง การบำบัดน้ำเสียจากห้องปฏิบัติการที่ปนเปื้อนด้วย PAHs โดย RRM-V3 ที่ตรึงในอัลจิเนต พบว่าฟีแนนทรีนและไพรีนในน้ำเสียที่ความเข้มข้น 13.60 และ 13.96 มิลลิกรัมต่อลิตร ตาม ลำดับหลังจากย่อยสลาย 1 วันเหลือประมาณ 49.09% และ 74.59 % ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เซลล์ ตรึงในเม็ดอัลจิเนตได้ลดลงอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งวัน สิ่งนี้อาจเนื่องมาจากน้ำเสียยังมีสารอื่นซึ่งมีผลกระทบต่อโครงสร้างของอัลจิเนต | - |
dc.description.abstractalternative | Bioaugmentation process for treatment toxic substances in environmental were mostly unsuccessful because of lower survival rate of added microorganisms and loss of degrading capability. Therefore, this research aimed to immobilize a bacterial consortium RRM-V3 using alginate for remediation wastewater contaminated with pyrene and phenanthrene. The optimal conditions for immobilization in alginate were 4%(w/v) sodium alginate , 0.1 M calcium chloride and the initial bacterial cell number about 8 log CFU/ml. RRM-V3 immobilized in alginate degraded pyrene/phenanthrene at the concentration of 0.05, 0.5 and 1g/l at the same rate with those of tree RRM-V3 cells. Immobilized RRM-V3 cells could survive after storage at 4℃ in 0.85% sodium chloride for at least 3 months and were capable of pyrene/phenanthrene degradation. Immobilized cells could be reused continuously at least 4 cycles whereas the ability to degrade both PAHs remained unchanged. The treatment of PAHs-contaminated laboratory wastewater by alginate-immobilized RRM-V3 revealed that after one day phenanthrene and pyrene at the initial concentration of 13.61 and 13.96 mg/I were degraded to about 49.09 % and 74.59 %, respectively. However, immobilized cells in alginate decreased rapidly within one day. This may be due to the presence of other substances in wastewater which affected alginate structure. | - |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.14457/CU.the.2009.2193 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | แบคทีเรีย | en_US |
dc.subject | ฟีแนนทรีน -- การย่อยสลายทางชีวภาพ | en_US |
dc.subject | ไพรีน -- การย่อยสลายทางชีวภาพ | en_US |
dc.subject | Bacteria | en_US |
dc.subject | Phenanthrene -- Biodegradation | en_US |
dc.subject | Pyrene -- Biodegradation | en_US |
dc.title | การตรึงกลุ่มแบคทีเรีย RRM-V3 ในอัลจิเนตเพื่อใช้ย่อยสลายไพรีน/ฟีแนนทรีน | en_US |
dc.title.alternative | Immobilization of bacterial consortium RRM-V3 in alginate for pyrene | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | จุลชีววิทยาทางอุตสาหกรรม | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.14457/CU.the.2009.2193 | - |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Apiradee_pr_front_p.pdf | หน้าปกและบทคัดย่อ | 1 MB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_ch1_p.pdf | บทที่ 1 | 805.5 kB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_ch2_p.pdf | บทที่ 2 | 1.59 MB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_ch3_p.pdf | บทที่ 3 | 989.97 kB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_ch4_p.pdf | บทที่ 4 | 2.54 MB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_ch5_p.pdf | บทที่ 5 | 1.02 MB | Adobe PDF | View/Open |
Apiradee_pr_back_p.pdf | บรรณานุกรมและภาคผนวก | 1.23 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.