Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58896
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอัมพร ม้าคนอง-
dc.contributor.authorสิรินทร์ทิพย์ ดวงประทุม-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2018-05-26T10:23:17Z-
dc.date.available2018-05-26T10:23:17Z-
dc.date.issued2549-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58896-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549en_US
dc.description.abstractการวิจัยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. ศึกษามโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ 2. เปรียบเทียบมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการกับกลุ่มปกติ 3. ศึกษาความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ 4. เปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังการทดลองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ 5. เปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการกับกลุ่มปกติ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 89 คน เป็นนักเรียนกลุ่มทดลองจำนวน 46 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 43 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการและนักเรียนกลุ่มควบคุมได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบวัดมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ และแบบทดสอบ วัดความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยนำมาหาค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่ามัชฌิมเลขคณิตร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการมีมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดโดยกรมวิชาการ คือสูงกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนสอบทั้งฉบับ 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ มีมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ มีความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดโดยกรมวิชาการ คือสูงกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนสอบทั้งฉบับ 4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ มีความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการมีความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ไม่สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ ที่ระดับนัยสำคัญ .05en_US
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were: 1. to study mathematical concepts of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory ; 2. to compare mathematical concepts of seventh grade students between groups being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory and by organizing mathematics learning activities using conventional approach; 3. to study mathematics reasoning abilities of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory ; 4. to compare mathematics reasoning abilities of seventh grade students before and after being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory ; and 5. to compare mathematics reasoning abilities of seventh grade students between groups being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory and by organizing mathematics learning activities using conventional approach; The population of this research were seventh grade students in Nakhonsithammarat Education service area office 1. Office of the Basic Education Commission, Ministry of Education. The subjects were seventh grade students in academic year 2006 in Yotinbumruang School. They were divided into two groups, one experimental group with 46 students and one controlled group with 43 students. Students in experimental group were taught by organizing mathematics learning activites using the procedural analogy theory and those in controlled group were taught by organizing mathematics learning activities using conventional approach. The research instruments were the mathematical concept test and the mathematics reasoning ability test. The data were analyzed by means of arithmetic mean, mean of percentage, standard deviation, and t-test. The results of the study revealed that: 1. Mathematical concepts of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory were higher than minimum criteria of 50 percent. 2. Mathematical concepts of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory were higher than those of students being taught by organizing mathematics learning activities using conventional approach at .05 level of significance. 3. Mathematics reasoning abilities of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory were higher than minimum criteria of 50 percent. 4. Mathematics reasoning abilities of seventh grade students after being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory were higher than those of students before being taught at .05 level of significance. 5. Mathematics reasoning abilities of seventh grade students being taught by organizing mathematics learning activities using the procedural analogy theory were not higher than those of students being taught by organizing mathematics learning activities using conventional approach at .05 level of significance.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2006.2047-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectคณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)en_US
dc.subjectการเรียนรู้ด้านมโนภาพen_US
dc.subjectความสามารถทางคณิตศาสตร์en_US
dc.subjectMathematics -- Study and teaching (Secondary)en_US
dc.subjectConcept learningen_US
dc.subjectMathematical abilityen_US
dc.titleผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเปรียบเทียบกระบวนการ ที่มีต่อมโนทัศน์และความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จังหวัดนครศรีธรรมราชen_US
dc.title.alternativeEffects of using the procedural analogy theory in organizing mathematics activities on mathematical concepts and reasoning ability of seventh grade students in Nakhonsithammaraten_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameครุศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineการศึกษาคณิตศาสตร์en_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisorไม่มีข้อมูล-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2006.2047-
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
sirintip_du_front.pdf1.57 MBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_ch1.pdf1.35 MBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_ch2.pdf5.61 MBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_ch3.pdf2.58 MBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_ch4.pdf801.98 kBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_ch5.pdf1.34 MBAdobe PDFView/Open
sirintip_du_back.pdf12.34 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.