Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81381
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorประเสริฐ โหล่วประดิษฐ์-
dc.contributor.authorพัทธมน บุญมี-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์-
dc.date.accessioned2022-12-09T07:27:31Z-
dc.date.available2022-12-09T07:27:31Z-
dc.date.issued2563-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81381-
dc.descriptionเอกัตศึกษา น.ม. (การเงิน/ภาษีอากร)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563en_US
dc.description.abstractภาษีการเข้าพักโรงแรม คือ รายได้ของรัฐที่เรียกเก็บจากการเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักประเภทอื่น ๆ ของนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในประเทศไทยจัดเก็บรายได้ดังกล่าวในลักษณะของค่าธรรมเนียมบํารุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดและค่าธรรมเนียมบํารุงกรุงเทพมหานครโดยกฎหมายให้อํานาจแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดและกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเรียกเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้ซึ่งกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ประเทศไทยมีเพียงฉบับเดียว คือ พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ดังนั้น เฉพาะการเข้าพักในสถานที่พักที่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 เท่านั้น ที่จะต้องเสียภาษีการเข้าพักโรงแรม ทําให้เกิดความไม่เสมอภาคและไม่ยุติธรรมแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเพราะผู้ที่เข้าพักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ย่อมไม่ต้องเสียภาษีการเข้าพักโรงแรม เพราะฉะนั้น ควรมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากการเข้าพักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมได้ โดยจากการศึกษาวิเคราะห์ผู้วิจัยเห็นว่าแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เหมาะสม คือ (1) ควรตรากฎหมายภาษีการเข้าพักโรงแรมให้เป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติเพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับหลักภาษีอากรที่ดีและ (2) ควรปฎิรูปกฎหมายที่เกี่ยวกับสถานที่พักแรม เพื่อส่งเสริมและควบคุมสถานที่พักแรมที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว นอกจากจะทําให้การจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมสอดคล้องกับหลักภาษีอากรที่ดีแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและอํานวยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2020.201-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectการจัดเก็บภาษีen_US
dc.subjectโรงแรม--ค่าธรรมเนียมen_US
dc.titleแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณีสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมen_US
dc.typeIndependent Studyen_US
dc.degree.nameนิติศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineกฎหมายการเงินและภาษีอากรen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subject.keywordการจัดเก็บภาษีผู้พักโรงแรมen_US
dc.subject.keywordภาษีการเข้าพักโรงแรมen_US
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.IS.2020.201-
Appears in Collections:Law - Independent Studies

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6280060634.pdf891.02 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.