Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81961
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | อภิชาติ กาญจนทัต | - |
dc.date.accessioned | 2023-03-10T08:07:47Z | - |
dc.date.available | 2023-03-10T08:07:47Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81961 | - |
dc.description | หน้าปกภาษาไทย เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ | en_US |
dc.description.abstract | งานวิจัยนี้เตรียมโปรตีนไฮโดรไลเสตจากเกสรผึ้งพันธุ์ ที่ได้จากปฏิกิริยาย่อยสลายด้วยเอนไซม์ 3 ชนิด ได้แก่ แอลคาเลส ฟลาโวไซม์ และนิวเทรส พบว่าเมื่อใช้นิวเทรสในอัตราส่วนของเอนไซม์ต่อสับสเตรต 1:1 (NH1) โดยปริมาตร จะให้แสดงค่าการยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระด้วยวิธีไนตริกออกไซต์ได้ดีที่สุด คัดแยกเพปไทด์ที่มีขนาดโมเลกุลต่ำกว่า 0.65 กิโลดาลตัน (MW1) มีฤทธิ์ในการขจัดอนุมูลอิสระไนตริกออกไซด์ได้ดีที่สุด จากนั่นได้ทำการตรวจสอบความเป็นพิษของ MW1 ด้วยวิธี MTT และตรวจสอบ ผลการยับยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์ในเซลล์แมคโครฟาจ RAW 264.7 ที่ถูกกระตุ้นด้วยไลโปโพลิแซคคาไรด์ พบว่า MW1 ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และมีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์ ผลการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวของกับการอักเสบ พบว่า MW1 มีฤทธิ์ในการยับยั้งการแสดงออกของยีน inducible nitric oxide synthase (iNOS) Cyclooxygenase-2 (COX-2) Interleukin-6 (IL-6) และ Tumor necrosis factor alpha (TNF-α) จากนั้นนำ MW1 ไปทำบริสุทธิ์ด้วยเทคนิคโครมาโตกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง สามารถแยกเพปไทด์ได้ทั้งหมด 6 พีค (H1-6) โดยที่ H2, H3 และ H4 แสดงค่าการยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระด้วยวิธีไนตริกออกไซด์ได้ดีที่สุด และนำเพปไทด์ที่ได้ไปพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วยเทคนิคแมสสเปกโตรเมตรีพบเพปไทด์ทั้งหมด 7 สาย จากผลการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าฤทธิ์ต้านการอักเสบของเพปไทด์จากเกสรผึ้งพันธุ์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุสาหกรรมทางการแพทย์ เภสัชกรรมและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่อไป | en_US |
dc.description.abstractalternative | Bee pollen protein was hydrolyzed using the commercial Alcalase, Flavourzyme and Neutrase enzymes. The Neutrase hydrolysate formed from a 1:1 (v/v) enzyme/substrate ratio (NH1) showed the highest nitric oxide (NO) radical scavenging activity. The NH1 was further separated into five fractions based on molecular weight (MW1-5) and MW1, the smallest weight fraction (<0.65 kDa), possessed the highest NO inhibitory activity. The effects of MW1 on the production of NO were assessed by incubating with lipopolysaccharide-stimulated RAW264.7 macrophage cells. NO levels from the culture supernatants were determined by Griess reaction. The results showed that NH1 inhibiting the lipopolysaccharide-induced NO production and upregulation of cyclooxygenase-2, inducible nitric oxide synthase, tumor interleukin-6 and necrosis factor transcript expression in RAW264.7 macrophage cells. Thus, the MW1 fraction was fractionated using reversed-phase high-performance liquid chromatography into six principal fractions (H1-6), where H2, H3 and H4 showed strong NO inhibitory activity. Seven peptide sequences were obtained by quadrupole time-of-flight mass spectrometry, three of which displayed potent anti-inflammatory activity and may be useful ingredients in functional food and pharmaceutical drugs. | en_US |
dc.description.sponsorship | งานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2561 เลขที่สัญญา GB_B_61_096_61_02 | en_US |
dc.language.iso | en | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.rights | สถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | โปรตีนไฮโดรไลเสต | en_US |
dc.subject | เซลล์มะเร็ง -- การเจริญเติบโต -- การควบคุม | en_US |
dc.subject | Protein hydrolysates | en_US |
dc.subject | Cancer cells -- Growth -- Regulation | en_US |
dc.title | ความเป็นพิษและการเหนี่ยวนำการตายแบบอะโพโทซิสต่อเซลล์มะเร็ง โดยเพปไทด์จากเกสรผึ้งพันธุ์ Apis mellifera | en_US |
dc.type | Technical Report | en_US |
Appears in Collections: | Biotec - Research Reports |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Biotech_Aphichart Karnchanatat_2018.pdf | รายงานการวิจัยฉบับเต็ม (Fulltext) | 2.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.