Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/84577
Title: นโยบายการพัฒนาชุมชนของกรุงเทพมหานคร เปรียบเทียบระหว่าง กิจกรรมผู้ว่าฯ พบประชาชน ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
Other Titles: A Comparative Analysis of BMA Community Development Activities between “Governor Meets the People” activity by Governor Aswin Kwanmuang and “Governor on the Go” activity by Governor Chadchart Sittipunt
Authors: ปัทมภัส คูหาวิชานันท์
Advisors: พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์
Issue Date: 2565
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการกำหนดนโยบาย การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และการประเมินผลนโยบายด้านการพัฒนาชุมชนของกรุงเทพมหานคร ภายใต้การบริหารราชการของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และเพื่อศึกษาเปรียบเทียบกิจกรรมผู้ว่าฯ พบประชาชนของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กับผู้ว่าฯ สัญจรของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการศึกษาเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ข้าราชการประจำ จำนวน 12 คน ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร จำนวน 12 คนรวมเป็น 24 คน ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและการนำเสนอเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า นโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มีความสอดคล้องกับตัวแบบชนชั้นนำ ของ Dye (2007) เนื่องจากในการกำหนดนโยบายการบริหารงานกรุงเทพมหานครของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เข้าสู่ตำแหน่งโดยการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ก่อนได้รับแต่งตั้งไม่ได้มีการนำเสนอนโยบายให้ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครตัดสินใจเลือก และในการดำเนินโครงการที่สำคัญที่มีงบประมาณมาก หรือเมกะโปรเจกต์ ก็มีการเตรียมการโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติมาตั้งแต่ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งกลุ่มชนชั้นนำจะกำหนดนโยบายโดยอาศัยค่านิยมของตนเองเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจนโยบาย ถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจกิจกรรมการพัฒนาเมือง และไม่ได้รับข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ ชนชั้นนำจึงมีบทบาทในการกำหนดความคิดเห็นของประชาชนมากกว่าที่ประชาชนจะกำหนดความคิดเห็นของชนชั้นนำ โดยประชาชนไม่ได้กำหนดนโยบาย ข้าราชการทำหน้าที่เพียงนำนโยบายที่กำหนด โดยชนชั้นนำไปสู่ประชาชนเท่านั้น ในส่วนของการประเมินผลนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองหลังจากดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาครบ 1 ปีที่ได้ประกาศแผนขับเคลื่อน กทม. ปี 2561 โดยใช้กรอบการทำงาน 100 วัน 200 วัน 300 วัน จนถึง 1 ปี ส่วนนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์มีความสอดคล้องกับตัวแบบระบบ ของ Dye (2007) เนื่องจากการกำหนดนโยบายการบริหารกรุงเทพมหานครของ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์นั้น ได้จัดทำนโยบายในภาพใหญ่ และนโยบายรายเขตหรือพื้นที่ ไม่ได้ใช้นโยบายเดียวเหมาะรวมทุกท้องที่ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้บ้านใกล้ตัวของประชาชน หรือที่เรียกว่า "ปัญหาเส้นเลือดฝอย" มากกว่าคิดถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ ในการกำหนดนโยบายจะมาจากปัญหาจริงของชาวเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านอาสาสมัครและการเข้าพื้นที่พบกับคนที่อยู่อาศัยทั่วกรุงเทพฯ อยู่บนรากฐานของข้อมูลสถิติที่เป็นวิทยาศาสตร์ร่วมกับนักวิชาการจากหลายสถาบันการศึกษาโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ได้นำเสนอนโยบายมากถึง 216 ข้อ ภายใต้คำขวัญ "สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน" โดยจัดกลุ่มนโยบายไว้ 9 มิติ เพื่อสร้าง "กรุงเทพฯ 9 ดี" ประกอบด้วย ปลอดภัยดี สุขภาพดี สร้างสรรค์ดี สิ่งแวดล้อมดี บริหารจัดการดี เรียนดี โครงสร้างดี เศรษฐกิจดี และเดินทางดี  ในการนำนโยบายไปปฏิบัติผ่านกระบวนการวางแผนและวิธีการงบประมาณโดยการผลักดันนโยบาย “กรุงเทพ 9 ดี” ลงสู่แผนปฏิบัติราชการกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2566 ที่มีการอนุมัติไปก่อนหน้าที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์จะดำรงตำแหน่ง จึงทำการปรับแผนปฏิบัติการโดยการประชุมทำความเข้าใจและจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพฯ 9 ดี ให้หน่วยงาน ในสังกัดกรุงเทพมหานครทบทวนภารกิจของหน่วยงานที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครทั้งภารกิจที่เป็นหน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุน และจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) โดยระบุเป้าหมายและผลที่ได้รับจากการดำเนินการโครงการ/กิจกรรมในแต่ละช่วงเวลา เช่น ระยะเวลา 100 วัน ระยะเวลา 200 วัน และระยะเวลา 300 วัน และ 1 ปี  เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการวัดผล ส่วนกิจกรรมผู้ว่าฯ พบประชาชน และกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจรนั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิได้มี ส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ทั้งนี้ เนื่องมาจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงไม่ได้รวบรวมข้อมูลจากประชาชนในการกำหนดนโยบายโดยอาศัยเวทีกิจกรรมผู้ว่าฯ พบประชาชน ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แม้ว่าจะมีการรวบรวมข้อมูล ศึกษาปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนไว้เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ก็เป็นการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอนโยบายต่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานครก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนั้น จึงไม่ได้มีการกำหนดนโยบายโดยอาศัยกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจรแต่อย่างใด
Other Abstract: The purpose of this research were to compare the policy formulation policy implementation and policy evaluation of the BMA Community Development under the administration of Police General Aswin Kwanmuang and Mr. Chadchart Sittipunt and to comparative Analysis of activities between “Governor Meets the People” activity by Governor Aswin Kwanmuang and “Governor on the Go” activity by Governor Chadchart Sittipunt. This is a qualified research. The researcher studied and interviewed 12 officials and 12 Bangkokians. The researcher used content analysis with descriptive presentation. The result was shown that the policies of Police General Aswin Kwanmuang was consistent with Dye model (2007). Owing to the appointment as Bangkok  governor by National Council for Peace and Order, he had handled a lot of projects with a large sum of budget or megaproject, but he had never submitted any policies to the people before the appointment. Therefore all the policies were prepared by National Council for Peace and Order. Most high society who assigned the policies always thought about their own personal value, while the officials had to lead these policies to other people. After 1 year administration, Police General Aswin Kwanmuang announced the action plan by using time working frame : 100, 200, 300 days or a year. For the administration by Mr. Chadchart Sittipunt also agrred with Dye model (2007). As his policy assignment was the whole and the local region, which were different. It focused on the solving of capillaries problems (micro issues) which were close to the people rather than the megaproject or any big investment projects. All the policies came from people’s real problems around Bangkok- based on the scientific data from academician from various institutes. He has proposed 216 proposals under the motto “Make Bangkok as a wonderful city for everybody” He divided his policies into 9 aspects to develop Bangkok in 9 parts. they consisted of Safety, Good Health, Creativity, Good environment, Good administration, Good Education, Good Construction, Good Economy and Good Travel. To lead these policies to planned process in order to drive the policies “Bangkok in 9 Aspects” in the year 2023, he would continue his position and adjust the schemes by making the understanding the mission and the practice for the organization in Bangkok as well as preparing the Action plan with the objective and the result after the management in each period : 100 , 200 and 300 days or a year in order to make clear evaluation. For the activities “Governor Meets the People” and “Governor on the Go”, the participants had never taken part in any assignment. Since Police General Aswin Kwanmuang who was appointed by National Council for Peace and Order as Bangkok governor, did not gather information from the people on the stage of this activity while Mr. Chadchart Sittipunt, though he had gathered the information, had studied problems and needs of the people furthermore he had proposed these for the people. He had done all these before the election, so it was the fact that he has not assigned any policies by the activity “Governor on the Go”
Description: สารนิพนธ์ (รป.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2565
Degree Name: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: รัฐประศาสนศาสตร์
URI: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/84577
Type: Independent Study
Appears in Collections:FACULTY OF POLITICAL SCIENCE - INDEPENDENT STUDY

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6480079124.pdf3.22 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.