Abstract:
เปรียบเทียบประสิทธิผลของรูปแบบการให้ทันตสุขศึกษา ด้วยวิธีการที่ต่างกันแก่ผู้ปกครองของเด็กดาวน์ ซินโดรมช่วงก่อนวัยเรียนที่พาเด็กมารับบริการ ในแผนกกระตุ้นพัฒนาการในโรงพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ 3 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจำนวน 73 รายถูกจัดเข้าสู่กลุ่มศึกษา 3 กลุ่มคือ กลุ่มควบคุม กลุ่มที่ได้รับทันตสุขศึกษาแบบสอนตัวต่อตัวโดยทันตบุคลากร และกลุ่มที่ได้รับทันตสุขศึกษาแบบวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยการที่ผู้ปกครองศึกษาจากสื่อการสอนแบบสื่อวิดิทัศน์ ประเมินประสิทธิภาพการแปรงฟันของผู้ปกครองที่ผิวฟันเด็ก โดยวัดค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์พื้นฐาน (Pl1) ค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์จากการแปรงแบบเดิม (Pl2) และค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์หลังให้ทันตสุขศึกษา (Pl3) เพื่อดูผลต่างค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์ (delta Pl) และประเมินความรู้ของผู้ปกครองจากค่าคะแนนความรู้ก่อนและหลังให้ทันตสุขศึกษา วิเคราะห์ความแตกต่างของประสิทธิผลการให้ทันตสุขศึกษาในทันที ด้วยสถิตินอนพาราเมตริกชนิดครูสครัล วัลลิส ระหว่างกลุ่มศึกษา 3 กลุ่ม และสถิตินอนพาราเมตริกชนิดแมนวิทนีย์ ยู ระหว่างคู่กลุ่มศึกษาที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการศึกษาพบว่าดัชนีคราบจุลินทรีย์พื้นฐาน (Pl1) ก่อนเริ่มการศึกษาในกลุ่มศึกษาทั้ง 3 กลุ่มนั้นไม่แตกต่างกัน แสดงว่าแต่ละกลุ่มศึกษามีการกระจายลักษณะของประชากรที่ใกล้เคียงกัน ภายหลังให้ทันตสุขศึกษาพบผลต่างค่าดัชนีคราบจุลทรีย์ (delta Pl) และค่าคะแนนความรู้จากช่วงก่อนและหลังการให้ทันตสุขศึกษาระหว่างกลุ่มศึกษา 3 กลุ่มนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลการเปรียบเทียบพบความแตกต่างระหว่างกลุ่มควบคุม และกลุ่มที่ได้รับทันตสุขศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อเปรียบเทียบในระหว่างกลุ่มที่ได้รับทันตสุขศึกษา 2 กลุ่มนั้น พบว่ามีค่าแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าการให้ทันตสุขศึกษาแก่ผู้ปกครอง วิธีการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยการที่ผู้ปกครองศึกษาจากสื่อการสอนแบบสื่อวิดิทัศน์นั้น น่าจะมีผลทำให้เกิดการพัฒนาทั้งความสามารถในการแปรงฟัน และความรู้ของผู้ปกครองได้ไม่ต่างจาก การให้ทันตสุขศึกษาแบบสอนตัวต่อตัวโดยทันตบุคลากร