Abstract:
ตามที่ประเทศไทยมีแนวคิดที่จะนำกฎหมายประกันการว่างงานมาใช้ ซึ่งในที่นี้ได้แก่การบังคับใช้ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งการนำประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายดังกล่าวมาใช้ในประเทศไทยมีข้อที่น่าพิจารณาหลายประการคือการจ่ายประโยชน์ทดแทนดังกล่าวเป็นแนวคิดของการจ่ายประโยชน์ทดแทนแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่สามารถที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาการว่างงานได้ แต่เป็นเพียงมาตรการที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ว่างงานในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และจากการศึกษากฎหมายประกันการจ้างงานของประเทศสาธารณรัฐเกาหลีจะพบว่ากฎหมายของประเทศเกาหลีเป็นกฎหมายที่มีแนวคิดในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ว่างงานแตกต่างจากแนวคิดแบบดั้งเดิมที่เน้นการจ่ายประโยชน์ทดแทน กล่าวคือมีแนวคิดที่จะใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการว่างงานมากกว่าที่จะใช้กฎหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ว่างงานโดยการจ่ายประโยชน์ทดแทนแต่เพียงอย่างเดียว กล่าวโดยสรุปได้ว่าประเทศเกาหลีมีแนวคิดของการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ว่างงานโดยระบบประกันการจ้างงาน มากกว่าที่จะเป็น ระบบประกันการว่างงาน และจากการศึกษาพบว่าประเทศไทยสมควรที่จะนำแนวคิดของการประกันการจ้างงานมาใช้ โดยเริ่มต้นจากการใช้ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานที่ประเทศไทยมีอยู่ บนแนวคิดของการประกันการจ้างงานที่ใช้ประโยชน์ทดแทนเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการว่างงาน หลังจากนั้นก็ขยายความคุ้มครองของกฎหมายสู่การสร้างเสถียรภาพในการจ้างงานด้วยมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสม ตลอดจนการพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะนำไปสู่ระบบข้อมูลตลาดแรงงานที่มีประสิทธิภาพ และระบบการพัฒนาความสามารถทางอาชีพที่สอดคล้องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่นำไปสู่การมีกฎหมายประกันการจ้างงานของประเทศไทยที่มีประสิทธิภาพต่อไป