Abstract:
ศึกษาผลของกลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ ที่มีต่อการพัฒนาภาพลักษณ์ของตนในวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ โดยมีสมมติฐานการวิจัยดังนี้ (1) หลังการทดลองวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์จะมีคะแนนภาพลักษณ์ของตน สูงกว่าวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่ไม่ได้เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ (2) หลังการทดลองวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์จะมีคะแนนภาพลักษณ์ของตน สูงกว่าก่อนการเข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ การวิจัยนี้ใช้แบบการวิจัยที่มีกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม มีการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก จำนวน 16 คน ซึ่งสุ่มจากวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กที่มีคะแนนภาพลักษณ์ของตนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (X = 329.35) แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 8 คน กลุ่มควบคุม 8 คน โดยวิธีการสุ่ม กลุ่มทดลองได้เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ 15 ครั้ง เป็นเวลา 15 วันต่อเนื่อง ทุกวันๆ ละ 2 ชั่วโมง รวม 30 ชั่วโมง โดยผู้วิจัยเป็นผู้นำกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบวัดภาพลักษณ์ของตน ที่พัฒนามาจากแบบวัดภาพลักษณ์ของตนของออฟเฟอร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบความแตกต่าง ของค่าเฉลี่ยคะแนนภาพลักษณ์ของตนด้วยวิธีการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1. หลังการทดลองวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์มีคะแนนภาพลักษณ์ของตน สูงกว่าวัยรุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่ไม่ได้เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. หลักการทดลองวัย รุ่นหญิงที่ถูกล่วงเกินทางเพศ ที่เข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์มีคะแนนภาพลักษณ์ของตน สูงกว่าก่อนการเข้ากลุ่มจิตสัมพันธ์ตามแนวของชูทส์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05