Abstract:
ศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของแพทย์และบุคคลทั่วไปในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลายเกี่ยวกับการช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยแพทย์ 90 คน (วัยผู้ใหญ่ตอนต้น 30 คน วัยผู้ใหญ่ตอนกลาง 30 คน วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย 30 คน) และบุคคลทั่วไป 90 คน (วัยผู้ใหญ่ตอนต้น 30 คน วัยผู้ใหญ่ตอนกลาง 30 คน วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย 30 คน) แบบสอบถามเกี่ยวกับการช่วยให้ผู้ป่วย ที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบได้รับการใช้เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การทดสอบไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่า 1. บุคคลทั่วไปเห็นด้วยกับการช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบประเภท Active Voluntary Euthanasia และ Active Nonvoluntary Euthanasia มากกว่าแพทย์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2. แพทย์ที่แสดงความคิดเห็นโดยไม่คำนึงถึงกรอบของกฎหมาย และจริยธรรมวิชาชีพเห็นด้วยกับ Active Voluntary Euthanasia และ Active Nonvoluntary Euthanasia มากกว่าแพทย์ทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 แต่การเห็นด้วยยังน้อยกว่าของบุคคลทั่วไปในกรณีของ Active Nonvoluntary Euthanasia อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 3. ไม่พบความแตกต่างระหว่างความคิดเห็นของแพทย์และบุคคลทั่วไป ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลายเกี่ยวกับการช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบทุกประเภท 4.อัตราของรายได้ต่อเดือนและระดับการศึกษาที่แตกต่างกันของกลุ่มตัวอย่าง มีผลต่อความคิดเห็นเกี่ยวกับ Active Nonvoluntary Euthanasia ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 5. จากการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่าง พบว่าหน่วยงานด้านการแพทย์และพยาบาลเป็นหน่วยงานที่ควรรับผิดชอบ เกี่ยวกับการช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบ แพทย์ผู้รักษาผู้ป่วยควรเป็นผู้ตัดสินว่าผู้ป่วยเป็นบุคคลที่สิ้นหวังในการรักษา ผู้ป่วยและแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยน่าจะเป็นผู้ติดสินว่า ควรช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาตายอย่างสงบ และพินัยกรรมเพื่อชีวิตควรเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ ของผู้ป่วยที่สิ้นหวังในการรักษาที่แพทย์น่าจะสามารถปฏิบัติตามได้