Abstract:
ศึกษาเพื่อให้เห็นถึงการที่อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์และคงอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาการของแนวความคิดทางด้านกฎหมายมหาชนเกี่ยวกับอำนาจรัฐ ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย จากการปกครองระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ผลการศึกษาพบว่า แนวความคิดในการจำกัดการใช้อำนาจรัฐโดยบุคคลคนเดียว ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้อำนาจรัฐและรูปแบบการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจสูงสุดในการปกครอง เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่พระมหากษัตริย์ถูกจำกัดพระราชอำนาจโดยรัฐธรรมนูญ แต่แนวความคิดดังกล่าวยังจำกัดอยู่แต่เฉพาะผู้มีความรู้ และมีการศึกษาจากต่างประเทศเท่านั้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในแนวความคิดนี้ และยังได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มเจ้าและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่มีอำนาจอยู่เดิมซึ่งยังนิยมการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทำให้การพัฒนาแนวความคิดในการจำกัดการใช้อำนาจรัฐต้องหยุดชะงัก ขาดความต่อเนื่อง แม้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะมีรัฐธรรมนูญในการจัดระเบียบองค์กร การใช้อำนาจรัฐประกาศใช้หลายฉบับก็ตาม แต่รัฐธรรมนูญเหล่านั้นมีลักษณะเป็นรัฐธรรมนูญแต่เพียงรูปแบบ ส่วนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญยังไม่สอดคล้องกับแนวความคิด การแบ่งแยกการใช้อำนาจรัฐ การใช้อำนาจรัฐส่วนใหญ่ยังอยู่กับกลุ่มของผู้ปฏิวัติหรือรัฐประหาร และยังได้รับการรับรองความชอบด้วยกฎหมายของประกาศ คำสั่ง และปฏิวัติหรือรัฐประหารจากศาล ประกอบกับอิทธิพลของแนวความคิดทางจารีตประเพณีและวัฒนธรรมการปกครองดั้งเดิม และความไม่พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชน เป็นผลให้การใช้อำนาจรัฐส่วนใหญ่ตกอยู่กับกลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มเดียว