Abstract:
เนื่องจากประเทศไทยประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปี พ.ศ. 2540 โดยมีสาเหตุสำคัญจากปัญหาการขาดดุลการชำระเงินสะสมต่อเนื่องและปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการการจองวงเงินกู้ล่วงหน้าซึ่งประเทศจะต้องจัดทำเอกสารเกี่ยวกับนโยบายและแผนการณ์กอบกู้เศรษฐกิจที่เรียกว่า "หนังสือแจ้งความจำนง" (Letter of Intent) เสนอต่อกองทุนฯ ดังกล่าว เพื่ออนุมัติวงเงินกู้ต่อไปจึงก่อให้เกิดปัญหาว่า หนังสือแจ้งความจำนงมีสถานะในทางกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศที่ผูกพันให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามหรือไม่ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งความจำนงที่เรียกว่า "Conditionality" มีลักษณะเป็นข้อกำหนดที่ขัดต่ออำนาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจของไทยหรือไม่ ผลจากการศึกษาพบว่า หนังสือแจ้งความจำนงดังกล่าวไม่มีสถานะเป็นสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศแต่อย่างใด กล่าวคือ มีสถานะเป็นเพียงคำประกาศฝ่ายเดียว (Unilateral Declarations) ของรัฐบาลไทยที่มีไปถึงกองทุนฯ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินดังกล่าวก็มิได้ขัดต่ออำนาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจของไทย แต่เป็นพันธกรณีที่ประเทศไทยมีต่อกองทุนฯ ในฐานะรัฐภาคี ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งผู้วิจัยเห็นว่า ควรจะได้มีการเผยแพร่และสร้างทัศนคติอันถูกต้องในเรื่องนี้ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบและทางการไทยควรใส่ใจต่อกระบวนการเจรจาต่อรองเงื่อนไขการกู้ยืมเงินภายใต้มาตรา 5 อนุมาตรา 4 ของข้อตกลงว่าด้วยกองทุนฯ ให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยอย่างแท้จริง